วันนี้เป็นวันที่ 2 ในการเดินทางของผม ผมออกจากเก๋อ เอ่อร์มูมุ่งสู่เทือกเขาคุน หลุนซาน ไปสัมภาษณ์ผู้ประจำการที่โน่นเพื่อบำรุงรักษาทางในยุคใหม่
ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลของเก๋อ เอ่อร์มู่อยู่ที่ 2,800 เมตร ส่วนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลของเป้าหมายผมอยู่ที่ 4,868 เมตร ที่โน่นมีด่านของตำรวจติดอาวุธสูงสุดของจีน การเดินทางไปด่านเต็มไปด้วยความยากลำบาก เรานั่งรถเป็นเวลา 5 ชั่วโมง ระหว่างทางรถเสียสองครั้ง จึงจะเดินทางถึงกองทหาร
กองทหารได้ยินเรามาทำข่าวแล้ว ได้เตรียมอาหาร ติ่มซำและเค้ก ผมก็ได้รับประทานอาหารแล้ว รู้สึกว่ารสชาติอร่อยดี ผมก็ได้ทดลองแล้วว่า สัญญาณมือถือที่นี่ค่อนข้างดี ผมยังได้โพสต์ข้อความในเฟสบุ๊กด้วย ซึ่งอาจจะเป็นข้อความที่ผมโพสต์มาในพื้นที่ระดับสูงสุด
จากกองทหารถึงด่านที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 4,868 เมตร ต้องเดินขึ้นบันได 110 ขั้น ทหารบอกผมว่า ในพื้นที่สูดแบบนี้ ไม่มีใครสามารถเดินให้เสร็จรวดเดียว ผมคิดว่า ในเมื่อผมเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว ก็ควรกัดฟันเดินขึ้นไป สัมผัสถึงความไม่ง่ายของพวกเขา ในที่สุด ผมก็ได้เดินขึ้นไปทีละขั้น ๆ และสัมภาษณ์พวกเขาในอุโมงค์คุน หลุนซานที่พวกเขาประจำการอยู่
กองทหารที่ประจำการที่นี่ล้วนเป็นหนุ่มที่เกิดหลังทศวรรษ 1990 แห่งศตวรรษที่ 20 และศตวรรษที่ 21 พวกเขาเอาชนะปฏิกิริยาที่ราบสูง บำรุงรักษาทางถนนสายชิงไห่-ทิเบตและทางรถไฟสายชิงไห่-ทิเบตซึ่งเป็นสองทางหลักเข้าทิเบต ทหารร้อยละ 80 ในกองทหารที่นี่เรียนจบปวส. ขึ้นไป ได้รวบรวมบุคลากรวีชาชีพต่าง ๆ พวกเขามาที่นี่ทำอุทิศตนเพื่อชาติ และพยายามบรรลุเป้าหมายชีวิตและอุดมการณ์อาชีพของตนด้วย
ที่น่ากล่าวคือ ชีวิตในกองทหารไม่ค่อยเบื่อนัก ทหารได้ปลูกพริก มะเขือ กะหล่ำปลี และมะเขือเทศ โดยกองทหารเน้นเจตนารมณ์อุทิศตน ก็ริเริ่มถือประชาชนเป็นที่ตั้ง ได้เปิดผนังอ่านหนังสือและห้องคาราโอเกะ ทำให้ชีวิตของทหารมีความหลากหลาย
เวลาทำข่าวที่กองทหารมีเพียงสามสี่ชั่วโมง เมื่อออกจากค่ายทหาร พวกเขาคำนับต่อเรา แล้วเราก็แสดงความเคารพต่อพวกเขา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ยังมีโอกาสเดินทางมากองทหารสัมผัสกับชีวิตของพวกเขา พบกับพวกเขาอีก
ชุย อี๋เหมิง วันที่ 17 กรกฎาคม
ที่อุโมงค์คุน หลุนซาน มณฑลชิงไห่