เช้าวันนี้ ผมได้ออกจากเมืองน่าชวีที่ทำข่าวมาหลายวัน เดินทางไปอำเภอตางสง เมืองลาซา โดยอำเภอตางสเป็นประตูเหนือของเมืองลาซา ในที่นี่ นายสั่วหล่างตัวจี๋ ผู้สูงวัยอายุ 82 ปีอาศัยอยู่ ปีนี้เป็นครบรอบ 70 ปีการปลดปล่อยทิเบตด้วยสันติภาพ เมื่อ 70 ปีก่อน สั่วหล่างตัวจี๋ได้เป็นสักขีพยานกระบวนการเข้าทิเบิตของกองทัพที่ 18 แห่งทหารปลดปล่อยประชาชนจีน ในบ้านของเขา เขาได้ทบทวนเรื่องรางอดีตให้พวกเรา

ปี 1951 กองทัพที่ 18 แห่งทหารปลดปล่อยประชาชนจีนเข้าทิเบต สั่วหล่างตัวจี๋ที่มีอายุ 12 ปีในสมัยนั้นเห็นกองทัพที่ 18 ฝ่าความหนาวเหน็บ รักษาวินัย 3 ประการ ยืนหยัดข้อสังเกต 8 ข้อ เสื้อผ้าของทหารแม้ทั้งเก่า ทั้งโทรม แต่ทหารไม่เอาสิ่งของของประชาชนแม้แต่น้อย ทีแรกทหารขี่อูฐ ต่อมาขี่ม้า เวลานั้น คุณพ่อของสั่วหล่างตัวจี๋ป่วยแล้ว แพทย์ทหารหญิงรายหนึ่งจากกองทัพที่ 18 ได้รักษาคุณพ่อของเขา พวกเขาไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษา ก็ติดต่อด้วยภาษาใบ้ ในที่สุด โรคของคุณพ่อหายดีแล้ว

เมื่อก่อน ครอบครัวของสั่วหล่างตัวจี๋เป็นทาสของชนชั้นสูง ต้องเสียภาษี หลังจากการปฏิรูปแบบประชาธิปไตยของทิเบตแล้ว ครอบครัวของสั่วหล่างตัวจี๋พลิกตัวเป็นเจ้าของแล้ว ร่วมการก่อสร้างทางถนนสายชิงไห่-ทิเบตและทางรถไฟสายชิงไห่-ทิเบต ปี 2007 มีการปรับปรุงอาคารทรุดโทรม เขาได้รับเงินช่วยเหลือ 14,000 หยวนหรือประมาณ 70,000 บาทจากรัฐบาล สร้างบ้านใหม่ 5 ห้องด้วยตนเอง เนื่องจากสร้างบ้านได้ดี ก็ได้รับโบนัส 3,000 หยวนหรือประมาณ 15,000 บาทจากรัฐบาลด้วย โดยบ้าน 5 ห้องกว้างใหญ่มาก พอสำหรับ 10 คนในครอบครัวอาศัยอยู่ นอกจากนี้ เวลานี้ บ้านของเขายังได้เลี้ยงจามรี 56 ตัวและแพะ 2 ตัว กลายเป็นครอบครัวที่เสียภาษีไม่มีที่สิ้นสุดจนถึงสร้างรายได้ 2 แสนหยวนหรือประมาณ 1 ล้านบาททุกปี

สั่วหล่างตัวจี๋เดินไปตามหนทางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาโดยตลอด 2 ลูกของเขาเป็นข้าราชการ เขามักจะเตือนพวกเขาว่า อย่าทุจริตคอรัปชั่น

ขณะนี้ สายตาของสั่วหล่างตัวจี๋ค่อนข้างเลว แต่เขาไม่มีความไม่สบายอื่น เขาฟังวิทยุภาษาทิเบตของท้องถิ่น หลายวันมานี้ เขาได้ยินเมืองเจิ้งโจวเกิดน้ำท่วม เขาบอกเราว่า เขาอยากจะบริภาคเงินให้เจิ้งโจวเท่าที่จะทำได้

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเขา ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทราบซึ้งใจและกดไลค์ให้กับเขา เวลานั้น เขาเป็นสักขีพยานแห่งความผูกพันระหว่างทหารกับประชาชน ต่อมากลายเป็นผู้ร่วมการก่อสร้างประเทศ ขณะนี้ใช้ชีวิตร่ำรวยแล้ว ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือเมื่อมีฝ่ายหนึ่งประสบความยากลำบาก ในสายตาของผม เรื่องราวและประสบการณ์ของเขาก็คือตัวอย่างดีที่สุดแห่งความสามัคคีของชนเผ่าทิเบตและความสามัคคีระหว่างทหารกับประชาชน

ชุย อี๋เหมิง วันที่ 23 กรกฎาคม

ที่อำเภอตางสง เขตปกครองตนเองทิเทต