ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีนระบุว่า ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ ยอดการนำเข้า-ส่งออกระหว่างจีนกับประเทศที่เข้าร่วมโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มีถึง 6.3 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 25.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการนำเข้าเพิ่มขึ้น 25.3% การส่งออกเพิ่มขึ้น 25.7% บุคคลในแวดวงที่เกี่ยวข้องเห็นว่าความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้ขับเคลื่อนการประสานเชื่อมโยงกันระหว่างทั่วโลก อีกทั้งได้เสริมพลังอันแข็งแกร่งให้กับการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
หลายเดือนมานี้โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (Delta) มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในทั่วโลก ขบวนรถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรป มีการดำเนินงานอย่างดีท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดที่รุนแรง โดยช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้รถไฟขนส่งสินค้าจีน-ยุโรปมีการเดินทางกว่า 7,300 ขบวน เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว มีการขนส่งสินค้าถึง 701,000 ตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน และขนส่งเวชภัณฑ์ถึง 96,000 ตัน
การเปิดใช้งานของขบวนรถไฟจีน-ยุโรป ก็ได้ช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศต่าง ๆ ครึ่งหลังของปีนี้ มีการเปิดเส้นทางขบวนรถไฟเมืองชิงเต่า-กรุงดูชานเบ ประเทศทาจิกิสถาน นาย SAIDZODA ZOHIR เอกอัครราชทูตทาจิกิสถานประจำประเทศจีนกล่าวว่า ขบวนรถไฟดังกล่าวมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการเสริมความร่วมมือเศรษฐกิจ-การค้าระหว่างสองประเทศ
ระยะเวลา 8 ปีหลังจากประเทศได้เสนอข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้อำนวยโอกาสและผลประโยชน์ต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ขณะนี้มี 140 ประเทศได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” กับจีนแล้วเสร็จ ยอดการค้าทั้งหมดระหว่างจีนกับหุ้นส่วนความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” รวมแล้วสูงถึง 9.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทจีนมีการลงทุนโดยตรงในประเทศที่เกี่ยวข้องรวมแล้วกว่า 130,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต้องยอมรับว่าโครงการ“หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ครอบคลุมขอบเขตที่กว้างที่สุดของโลก
(Bo/Zi)