วันที่ 23 สิงหาคม เป็นวันระลึกการค้าทาสและการเลิกทาสสากลที่กำหนดขึ้นโดยสหประชาชาติ แต่เมื่อเร็วๆนี้กลับเกิดสิ่งที่ตรงข้ามเหมือนต้องการเย้ยหยัน คือ สหรัฐฯได้ประกาศสิ่งที่เรียกว่า “รายงานการค้ามนุษย์” และจัดประเทศตนให้อยู่ใน “รายชื่อประเภทแรกที่มีการแสดงออกที่ดีที่สุด” นับเป็นปฏิบัติการสองมาตรฐานอีกครั้งที่ทั่วโลกดูถูก
ระบบทาสและการค้าทาส เป็นพฤติกรรมล่วงล้ำสิทธิมนุษยชนที่ชั่วร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ การค้าทาสข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นประวัติศาสตร์โหดร้ายตอนหนึ่ง ประเทศที่เข้มแข็งที่สุดในโลกปัจจุบัน ก็สะสมสมบัติระยะแรกด้วยการเหยียบหลังของทาสนั่นเอง เมื่อยืนอยู่บนกองกระดูกและเลือดเนื้อนับไม่ถ้วนนี้ สหรัฐฯมีคุณสมบัติใดกล่าวถึง “สิทธิมนุษยชน” และเอาความหาญกล้าจากไหนมาชี้ไม้ชี้มือประเทศอื่น
การค้าทาสชาวผิวดำเป็นบาปกรรมของผู้ล่าอาณานิคม แต่ที่น่าเสียดายคือ ประวัติศาสตร์ค้าทาสเป็นหลายร้อยปีได้ฝังลึกการดูหมิ่นสิทธิมนุษยชนและเผ่าชนไว้ในรากเหง้าของสหรัฐฯ จนกลายเป็นปัญหาเชิงระบบที่ยากขจัดไปได้
ที่น่าตกใจคือ ปรากฏการณ์ค้ามนุษย์และบีบบังคับใช้แรงงาน ยังมีอยู่บนดินแดนสหรัฐฯ กลุ่มคนชนเผ่าส่วนน้อยตกเป็นผู้ที่ง่ายต่อการถูกทำร้าย
ในบรรดาผู้ที่ถูกทำร้ายเหล่านี้ มีจำนวนมากถูกส่งไปยังโรงงานนรกหรือถูกใช้เป็นทาสในครัวเรือน ความจริงที่น่าหวาดกลัวคือ ไม่ว่าการค้ามนุษย์หรือบีบบังคับใช้แรงงาน ตัวเลขที่ถูกเปิดเผยออกมาอาจเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้น วิญญาณของระบบทาสยังคงลอยวนอยู่ในประเทศที่เรียกตนเองว่า “ประภาคารสิทธิมนุษยชน”
บันทึกด้านสิทธิมนุษยชนที่ย่ำแย่ของสหรัฐฯ ทำให้คำว่า “มนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกันตั้งแต่เกิด” ใน “คำประกาศอิสรภาพแห่งสหรัฐ” ช่างดูอ่อนกำลังเหลือเกิน ผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้พิพากษาสิทธิมนุษยชน ควรต้องพิพากษาตนเองก่อน ต้องรู้ว่าตนไม่มีคุณสมบัติชี้มือชี้ไม้ประเทศอื่นแต่อย่างใด
Yim/LR/Cui