เผิงโป๋ หนุ่มชาวเมืองเฉิงตู เมืองเอกมณฑลเสฉวน วัย 27 ปี ได้สั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์ของพิพิธภัณฑ์ซากเมืองโบราณซันซิงตุย 5 กล่อง ภายหลังท่องเว็บไซต์มากมายที่เปิดขายขนมไหว้พระจันทร์ต้อนรับเทศกาลที่จะมาถึง โดยพิพิธภัณฑ์ต่างๆของจีนมีการเพิ่มปัจจัยทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ดึงดูดผู้บริโภคอย่างมาก
เผิงโป๋เล่าว่า ตัวเองไม่ได้ซื้อขนมไหว้พระจันทร์มาหลายปีแล้ว แต่ปีนี้มีการออกขนมไหว้พระจันทร์เชิงวัฒนธรรมและสร้างสรรค์มากมาย ทำให้เขาเกิดความอยากรู้อยากลองตาม และแม้ว่ารูปลักษณ์ที่น่าสนใจจะดึงดูดเขามาก แต่มีเพียงขนมที่รสชาติดีเท่านั้น จึงจะทำให้เขากล้ากลับมาซื้ออีกในปีถัดไป
ดังนั้น เมื่อใกล้ถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ทุกปี ผู้ผลิตต่างจะพากันประชาสัมพันธ์โฆษณากันยกใหญ่ มีทั้งขนมไหว้พระจันทร์แฟชั่น, ขนมไหว้พระจันทร์เพื่อสุขภาพ เช่น น้ำตาลต่ำหรือไร้น้ำมัน, ขนมไหว้พระจันทร์รูปทรงหรือรสพิเศษ เช่น ก๋วยเตี๋ยวหลัวซือเฝิ่น เป็นต้น
สำหรับกล่องขนมไหว้พระจันทร์ของพิพิธภัณฑ์ซากเมืองโบราณซันซิงตุย แต่ละกล่องมีลักษณะพิเศษ ใช้เป็นกล่องเก็บของที่สวยงามหลังกินขนมหมดได้ ผู้รับผิดชอบของพิพิธภัณฑ์ซันซิงตุยแนะนำว่า ปีนี้ เป็นปีที่ 3 ที่พิพิธภัณฑ์ออกขนมไหว้พระจันทร์ คาดว่าปีนี้จะมียอดขายเกิน 30,000 กล่อง เป็น 10 เท่าของปีที่แล้ว เนื่องจากมีกลุ่มผู้บริโภคหนุ่มสาวที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมดั้งเดิม
นอกจากนี้ ธุรกิจหลายแห่งออกขนมไหว้พระจันทร์แบบน้ำตาลต่ำ ไร้น้ำมัน ใช้โปรตีนพืช รสผลไม้ เป็นต้น เพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ พนักงานร้านซูเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งกล่าวว่า มีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นจะดูฉลากส่วนประกอบก่อนซื้อขนม และจะเลือกที่มีแคลอรีและไขมันต่ำ ปฏิเสธไขมันทรานส์ ซึ่งหลายปีก่อน ขนมไหว้พระจันทร์ที่ลดน้ำตาลหรือไร้น้ำตาลถูกมองว่าเป็นอาหารเฉพาะของผู้ป่วยโรคเบาหวาน แต่ปัจจุบัน ยี่ห้อส่วนใหญ่จะพิมพ์คำว่า “น้ำตาลต่ำ” บนกล่องด้วย
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ประชาชนจีนให้ความสำคัญมากขึ้นกับเทศกาลเก่าแก่ตามประเพณี และหลังจากมีการควบคุมโควิดที่ได้ผลดี ความต้องการเยี่ยมญาติเพื่อนฝูงก็ฟื้นฟูขึ้น ผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ตลาดขนมไหว้พระจันทร์โดยรวมของจีนย่อมจะมีแนวโน้มที่โตต่อเนื่อง คาดว่ามูลค่าการจำหน่ายขนมไหว้พระจันทร์ปีนี้ของจีนจะสูงถึง 21,810 ล้านหยวน
Yim/Chu