ในงานกีฬาพาราลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 16 ที่สิ้นสุดลงที่กรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ทัพนักกีฬาจีนได้รับเหรียญรางวัลทั้งสิ้น 207 เหรียญ โดยจำนวนเหรียญทองและเหรียญรางวัลของทัพนักกีฬาจีนล้วนเป็นอันดับ 1 ในงานกีฬาพาราลิมปิกอย่างติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 ผลงานที่น่าภาคภูมิใจดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างมีคุณภาพของภารกิจด้านผู้พิการของจีน
ย้อนไปเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1984 จีนได้เข้าร่วมงานกีฬาพาราลิมปิกฤดูร้อนเป็นครั้งแรก คราวนั้นทัพนักกีฬาจีนมีจำนวน 24 คนเท่านั้น แต่ในงานกีฬาพาราลิมปิกครั้งนี้ ทัพนักกีฬาจีนมีจำนวนถึง 251 คน โดยได้เข้าร่วมการแข่งขันต่าง ๆ 341 รายการใน 20 ประเภทใหญ่ วัตถุประสงค์ในการเข้าร่วมการแข่งขันของงานกีฬาพาราลิมปิกของบรรดานักกีฬาผู้พิการจีนไม่เพียงแต่เพื่อได้รับเหรียญรางวัลเท่านั้น ที่สำคัญกว่านั้นคือ เพื่อพิชิตตนเองและพัฒนาก้าวหน้าอีก
นี่เป็นครั้งที่ 5 ที่นายจาง เหยียน นักกีฬาปิงปองวัย 54 ปีได้เข้าร่วมงานกีฬาพาราลิมปิก ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันปิงปองประเภททีมชาย เขากับเพื่อนร่วมทีมเอาชนะทีมเกาหลีใต้คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ หลังการแข่งขัน เขาระบุว่า “ตอนวัยหนุ่ม ผมคิดแต่เรื่องเดียว นั่นก็คือคว้าเหรียญทองมาครอง แต่ปัจจุบัน ผมให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนตลอดการแข่งขันมากกว่า เพลิดเพลินกับความมั่นใจและความสุขที่ได้มาจากการแข่งขันปิงปองมากกว่า”
มีผู้พิการหลาย ๆ คนได้เปลี่ยนชะตากรรมเนื่องจากเล่นกีฬา นางสาวหลี่ ลู่ วัย 27 ปีมาจากครอบครัวเกษตรกรมณฑลเหอหนัน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอน 4 ขวบ เธอเล่นกับเพื่อน ๆ แต่เผลอไปโดนหม้อแปลงไฟฟ้าในโรงงานเผาเครื่องเคลือบของหมู่บ้าน เป็นเหตุให้เธอต้องสูญเสียแขนซ้ายและกลายเป็นเด็กพิการ อย่างไรก็ตาม หลี่ ลู่ชอบวิ่ง ถึงแม้ว่าพิการแขน แต่เธอก็วิ่งเร็วกว่าเด็กอื่น ๆ ตอนที่เรียนป.6 เธอถูกคัดเลือกเป็นนักกีฬาวิ่งระยะสั้น ตั้งแต่นั้นมา การวิ่งช่วยให้เด็กหญิงชนบทคนนี้ได้มีโอกาสสัมผัสโลกภายนอก เธอได้เป็นแชมป์เอเชีย และแชมป์โลก อีกทั้งได้รับเหรียญทองของงานกีฬาพาราลิมปิกริโอเดอจาเนโรประจำปี 2016 ในการแข่งขันวิ่ง 400 เมตรหญิงกลุ่ม T47 ของงานกีฬาพาราลิมปิกครั้งนี้ เธอได้อันดับ 4
สำหรับนายเหลียง กุ้ยหวา นักกีฬาปั่นจักรยาน วัย 37 ปี ได้รับเหรียญทองแดงในงานกีฬาพาราลิมปิกโตเกียวครั้งนี้ นี่เป็นเหรียญรางวัลที่ 5 ที่เขาได้รับจากงานกีฬาพาราลิมปิก 3 ครั้งที่ผ่านมา อุบัติเหตุครั้งหนึ่งในวัยเด็ก ทำให้นายเหลียง กุ้ยหวา สูญเสียขาด้านหนึ่ง แต่เขาไม่ยอมจำนนต่อชะตากรรม โดยมุ่งมั่นอยู่ปรองดองกันกับร่างกายที่พิการ เขาเลือกการฝึกปั่นจักรยานด้วยขาข้างเดียว และสร้างผลงานด้วยความเร็วการปั่นจักรยาน เพื่อให้ผู้คนทั้งหลายเปลี่ยนท่าทีต่อผู้พิการ เขากล่าวว่า ถึงแม้ว่าผมมีขาเพียงข้างเดียว แต่ผมเหมือนกับคนสมบูรณ์ที่สามารถยืนขึ้นอย่างมั่นคงและเข้มแข็ง
ส่วนนายเจิ้ง เทา นักกีฬาว่ายน้ำจากมณฑลหยุนหนาน ได้สูญเสียแขนทั้งคู่เนื่องจากถูกไฟฟ้าช็อตในวัยเด็ก ซึ่งในการแข่งขันว่ายน้ำของงานมหกรรมพาราลิมปิกครั้งนี้ เขาได้ทำลายสถิติของการแข่งขันว่ายน้ำฟรีสไตล์ 50 เมตรกลุ่ม S5 ด้วยผลงาน 30.31 วินาที โดยได้รับเหรียญทองเหรียญที่ 4 ของงานกีฬาพาราลิมปิกครั้งนี้ ซึ่งเป็นเหรียญทองที่ 500 ของทัพนักกีฬาจีนจากงานกีฬาพาราลิมปิกฤดูร้อน นายเจิ้ง เทาเล่าให้ฟังว่า ทีแรก ผมเลือกการว่ายน้ำเป็นวิธีการออกกำลังกาย หลังจากได้รับผลงานที่ดีขึ้น ผมรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้อื่นเลย
สำหรับนักกีฬาผู้พิการ การเล่นกีฬาไม่เพียงแต่เสริมกำลังใจในการดำรงชีวิตเท่านั้น หากยังช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจและศักดิ์ศรีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
สถิติล่าสุดจากการสำรวจสำมะโนครัวพบว่า ปัจจุบัน จีนมีผู้พิการกว่า 85 ล้านคน คิดเป็นประมาณ 6% ของประชากรทั้งหมดของจีน เป็นเวลานานมาแล้ว ที่รัฐบาลจีนได้ใช้นโยบายและมาตรการต่าง ๆ ในการคุ้มครองสิทธิผลประโยชน์ของผู้พิการ เพื่อช่วยให้พวกเขามีความหวังในการดำรงชีวิต และใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ จีนประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้พิการเมื่อปี 1991 ปีนี้ครบรอบ 30 ปีเต็ม ตลอด 30 ปี ภารกิจผู้พิการของจีนได้ประสบผลสำเร็จอันใหญ่หลวง สิทธิการดำรงอยู่และสิทธิการพัฒนาของผู้พิการได้รับการคุ้มครองเป็นอย่างดี ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้พิการได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม บรรดาผู้พิการได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมสังคมอย่างเต็มที่ ทั่วทั้งสังคมจีนมีจิตสำนึกในการช่วยเหลือผู้พิการมากยิ่งขึ้น
หลายปีที่ผ่านมา พื้นที่ต่าง ๆ ของจีนรณรงค์ให้ความช่วยเหลือผู้พิการจากด้านการศึกษา วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ โดยส่งเสริมให้บรรดานักเรียนนักศึกษารวมทั้งปัญญาชนสมัครใจให้การบริการด้านการศึกษาแก่ผู้พิการและบุตรผู้พิการ สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยเฉพาะที่ประจำอยู่ในชนบทให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแก่บรรดาผู้พิการ เพื่อช่วยให้ผู้พิการเสริมทักษะในการใช้ชีวิตและทำงาน ที่มุ่งสู่ความมั่งคั่งด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากนี้ สำนักพิมพ์ต่าง ๆ รวมทั้งแวดวงสังคมต่าง ๆ พากันบริจาคหนังสือ นิตยสาร สิ่งพิมพ์ และผลิตภัณฑ์เสียงและวิดีโอให้แก่บรรดาผู้พิการ เป็นต้น
ทั้งนี้ วันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคมของทุกปี เป็นวันคนพิการแห่งชาติของจีน ทุกปีพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศจะจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้ความรักแก่ผู้พิการ ซึ่งรวมถึงการประชาสัมพันธ์กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้พิการ การไปเยี่ยมเยือนครอบครัวผู้พิการ และอาสาสมัครช่วยเหลือผู้พิการ เป็นต้น นอกจากนี้ วันที่ 25 สิงหาคมของทุกปี ยังเป็นวันป้องกันความพิการแห่งชาติของจีน โดยมุ่งที่จะสร้างจิตสำนึกในการป้องกันความพิการในสังคม และสร้างสุขภาพแข็งแรงของปวงชน
เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2019 สหพันธ์ผู้พิการจีนร่วมกับคณะกรรมการอนามัยและสุขภาพแห่งชาติจีนได้ร่วมกันตั้งมหาวิทยาลัยเพื่อการฟื้นตัวของผู้พิการขึ้นที่เมืองชิงเต่า มณฑลซานตง มหาวิทยาลัยแห่งนี้ถือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกเพื่อการฟื้นตัวของผู้พิการทั้งในจีนและในโลก และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีจีนได้ประกาศแผนการพัฒนาและคุ้มครองผู้พิการระหว่างปี 2021-2025 โดยระบุว่า จะพัฒนามหาวิทยาลัยเพื่อการฟื้นตัวของผู้พิการแห่งนี้ให้เป็นมาหวิทยาลัยสากลที่มีระดับสูง โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาภารกิจผู้พิการอย่างมีคุณภาพ
เมื่อเดือนกันยายน ปี 2020 นายสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของจีนได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมมณฑลหูหนาน และได้พบปะกับผู้แทนผู้พิการส่วนท้องถิ่น โดยระบุว่า การตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ใฝ่หาชีวิตความเป็นอยู่อันดีงาม ต้องคุ้มครองสิทธิผลประโยชน์ของผู้พิการให้ดี จึงต้องผลักดันภารกิจผู้พิการต่อไป
(Yim/Zhou)