สำนักข่าวซินหวารายงานว่า วันที่ 16 กันยายน สหประชาชาติร่วมกับหุ้นส่วนความร่วมมือต่างๆ เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งโดยระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้บรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แนวโน้มที่โลกจะร้อนขึ้นในอนาคตยังคงดำรงอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั่วโลกได้ผิดเพี้ยนออกจากตารางเวลาที่ข้อตกลงปารีสกำหนดไว้เป็นอย่างมาก
รายงานหัวข้อ “ความสามัคคีทางวิทยาศาสตร์ปี 2021” เป็นความร่วมมือขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก องค์การอนามัยโลก โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(IPCC) และหุ้นส่วนต่างๆของสหประชาชาติ
รายงานฉบับนี้ยังระบุว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปี 2020 ที่เกิดขึ้นจากการใช้ถ่านหิน น้ำมันปิโตรเลียม และปูนซีเมนต์ มีการลดน้อยลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับจุดสูงสุดเมื่อปี 2019 ทว่าสถานการณ์โควิด-19 เพียงทำให้ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดน้อยลงเป็นระยะสั้น ยกเว้นว่าประเทศต่างๆจะใช้มาตรการทรงพลังอย่างจริงจัง เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในช่วงที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 มิฉะนั้น ปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะลดไม่มากก่อนปี 2030
นอกจากนี้ การประชุมครั้งที่ 26 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นที่อังกฤษในเดือนพฤศจิกายนนี้ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติวิงวอนให้ประชาคมโลกถือการประชุมครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยน เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลกในปี 2030 ให้เป็น 55% ของยอดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เมื่อปี 2010(Yim /Zhou)