ประเด็น“ความมั่งคั่งร่วมกัน”เริ่มกลายเป็นวาระแห่งชาติของจีนมากยิ่งขึ้น (ตอนจบ)

2021-10-13 14:35:56 | CRI
Share with:

จีนมีความพร้อมมากขึ้นแล้วในการขับเคลื่อนความมั่งคั่งร่วมกัน

นับแต่การประชุมผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 18 เมื่อปี  2012 เป็นต้นมา ทางการจีนได้ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละตามเป้าหมายการสร้างความมั่งคั่งร่วมกันมาโดยตลอด ได้ประสบความสำเร็จในการขจัดความยากจนสุดขีดและการสร้างสังคมพอกินพอใช้อย่างรอบด้าน พลังเศรษฐกิจและพลังรวมแห่งชาติของจีนได้ยกระดับสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นการปูพื้นฐานอันแข็งแกร่งเพื่อเดินหน้าสร้างความมั่งคั่งร่วมกันในขั้นตอนการพัฒนาใหม่ในปัจจุบัน    กล่าวคือจีนมีความพร้อมมากขึ้นในการขับเคลื่อนความมั่งคั่งร่วมกัน

แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันปัญหาด้านการพัฒนาที่ไม่สมดุลและไม่เต็มที่ในจีนยังคงมีอยู่อย่างโดดเด่น ช่องว่างด้านการพัฒนาระหว่างเมืองกับชนบทและระหว่างภูมิภาคกับภูมิภาค ตลอดจนช่องว่างด้านรายได้ของประชากรยังคงมีช่องว่างค่อนข้างมาก และยังห่างไกลจากเป้าหมายแห่งความมั่งคั่งร่วมกัน พื้นฐานและเงื่อนไขของท้องที่ต่างๆ ในการขับเคลื่อนความมั่งคั่งร่วมกันนั้นมีความแตกต่างกัน การบรรลุความมั่งคั่งร่วมกันของประชาชนเป็นภารกิจอันหนักหน่วงในระยะยาว ยากที่จะขับเคลื่อนอย่างพร้อมเพรียงกันในเวลาอันสั้น มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่จะต้องคัดเลือกพื้นที่ที่มีความพร้อมกว่าเป็นพื้นที่สาธิต เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่พื้นที่อื่นได้เลียนแบบ

ประเด็น“ความมั่งคั่งร่วมกัน”เริ่มกลายเป็นวาระแห่งชาติของจีนมากยิ่งขึ้น (ตอนจบ)

เหตุใดจีนเลือกมณฑลเจ้อเจียงเป็นเขตสาธิต“ความมั่งคั่งร่วมกัน”

สาเหตุที่เลือกมณฑลเจ้อเจียงเป็นเขตสาธิตก็เพราะว่า ขนาดพื้นที่และโครงสร้างประชากรของเจ้อเจียงสามารถเป็นตัวแทนทั่วประเทศจีน มณฑลนี้มีระดับความมั่นคงค่อนข้างสูง สภาพการพัฒนาทางเศรษฐกิจทำให้มีพื้นฐานและความเหนือกว่าในการสร้างเขตสาธิตความมั่งคั่งร่วมกัน ปี 2020 ผลิตภัณฑ์มวลรวมเฉลี่ยต่อหัวของมณฑลเจ้อเจียงทะลุ 1 แสนหยวน รายได้ของชาวเมืองและชาวชนบทแยกกันครองอันดับ 1 ในเขตบริหารระดับมณฑลทั่วประเทศจีนติดต่อกันถึง 20 และ 36 ปีตามลำดับ ดัชนีช่องว่างด้านรายได้ระหว่างชาวเมืองกับชาวชนบทในมณฑลเจ้อเจียงอยู่ในระดับ 1.96 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 2.56 ของทั่วประเทศค่อนข้างมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้อเจียงได้ประสบผลสำเร็จที่เด่นชัดในการแสวงหาวิธีการแก้ปัญหาความไม่สมดุลด้านการพัฒนา มีผลงานบ้างแล้วในการคิดค้นสร้างสรรค์ระบบด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจการตลาด การปรับปรุงสิ่งแวดล้อมและการบริหารจัดการทางสังคม เป็นต้น ในอนาคตเจ้อเจียงมีความพร้อมมากกว่ามณฑลอื่นๆ ในด้านการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ และการหลอมรวมของเมืองกับชนบท เป็นต้น

“ข้อคิดเห็นของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และคณะรัฐมนตรีจีนว่าด้วยการสนับสนุนมณฑลเจ้อเจียงพัฒนาและสร้างสรรค์เขตสาธิตความมั่งคั่งร่วมกันอย่างมีคุณภาพสูง” ได้พิจารณาวางแผนการสร้างระบบนโยบายและกลไกที่เอื้อต่อเรื่องนี้ โดยกำหนดยุทธศาสตร์ 4 ประการ ซึ่งถือเป็นด้านสำคัญที่ต้องการขจัดอุปสรรคและสร้างนวัตกรรมโดยด่วน ประกอบด้วย

ประการแรก  เขตนำร่องการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพสูง  ประการที่สอง เขตนำร่องการพัฒนาเมืองและชนบทอย่างสอดประสาน ประการที่สามเขตทดลองการปฏิรูประบบการกระจายรายได้  และประการที่สี่เขตชุมชนสาธิตที่สามัคคีกลมกลืน สวยงามและมีอารยธรรม

นายหลิว หยวนชุน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเหรินหมินของจีนให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “เขตสาธิตนำร่องความมั่งคั่งร่วมกันมณฑลเจ้อเจียงถือเป็นการทดลองที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ ด้านหนึ่งก็เพื่อเสนอต้นแบบแห่งความมั่งคั่งร่วมกันแก่ประเทศชาติ และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเหนือกว่าของระบอบสังคมนิยมอย่างเด่นชัด ทั้งยังต้องเสนอแนวทางและรูปแบบจีนแก่ทั่วโลกในการแก้ไขปัญหาการกระจายรายได้ที่แยกเป็นสองขั้ว”

มณฑลเจ้อเจียงซึ่งมีประชากรราว 65 ล้านคน เน้นการขับเคลื่อนใน 3 ด้านเพื่อสร้างความมั่งคั่งร่วมกัน ประกอบด้วยการลดช่องว่างระหว่างภูมิภาคภายในมณฑล ช่องว่างระหว่างเมือง-ชนบท และช่องว่างรายได้ระหว่างกลุ่มอาชีพต่างๆ

แผนงานด้านการสร้างความมั่งคั่งร่วมกันของเจ้อเจียงได้กำหนดเป้าหมายสำคัญว่าถึงปี 2025   GDP เฉลี่ยต่อหัวถึง 130,000 หยวน รายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงเฉลี่ยต่อหัวถึง 75,000 หยวน  ลดช่องว่างด้าน GDP เฉลี่ยต่อหัวระดับภูมิภาคให้เหลือไม่เกิน 2.1 เท่า ลดช่องว่างด้านรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงเฉลี่ยต่อหัวระดับภูมิภาคเหลือไม่เกิน 1.55 เท่า ลดช่องว่างด้านรายได้ระหว่างชาวเมืองกับชาวชนบทเหลือไม่เกิน 1.9 เท่า  สัดส่วนของครัวเรือนที่มีรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงเฉลี่ยต่อปีระดับ 100,000 ถึง 500,000 หยวน ถึง 80% และจะพยายามทำให้สัดส่วนของครัวเรือนที่มีรายได้ที่ใช้จ่ายได้จริงเฉลี่ยต่อปี 200,000-60,000 หยวน ถึง 45% อายุขัยเฉลี่ยมากกว่า 80 ปี  อัตราการเข้าเกณฑ์มาตรฐานด้านสุขภาพแห่งชาติมากกว่า 94.5% อัตราการครอบคลุมด้านการจำแนกประเภทขยะถึง 100% และอัตราการคุ้มครองสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์สำคัญถึง 95% เป็นต้น

ประเด็น“ความมั่งคั่งร่วมกัน”เริ่มกลายเป็นวาระแห่งชาติของจีนมากยิ่งขึ้น (ตอนจบ)

“ความมั่งคั่งร่วมกัน”จะกลายเป็นผลงานอันยิ่งใหญ่เป็น “ปาฏิหาริย์" ในอนาคตอีกครั้งของจีน

เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าการบรรลุความมั่งคั่งร่วมกันในประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นปัญหาความยากลำบากระดับโลก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจีนซึ่งมีประชากรมหาศาล 1,400 ล้านคน อย่างไรก็ตาม เพื่อขับเคลื่อนความมั่งคั่งร่วมกัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งทำทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่เพียงแต่ยึดมั่นในอุดมการณ์นี้มาโดยตลอด แต่ยังได้ใช้มาตรการที่ทรงพลังอย่างต่อเนื่องพร้อมไปกับการพัฒนาและความก้าวหน้าของจีน  นี่อาจเป็นสาเหตุว่าทำไมพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้รับการสนับสนุนจากประชาชนจีนสูงถึงกว่า 90% เราเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำที่เข้มแข็งของพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมีความกล้าหาญในการสร้างผลงานราว "ปาฏิหาริย์"   จีนจะนำ "ปาฏิหาริย์" ครั้งใหม่มาสู่โลกด้วยการบรรลุ "ความมั่งคั่งร่วมกัน" ในอนาคตอย่างแน่นอน

BO/LU

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (14-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (13-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (13-11-2567)

何喜玲