เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายแอนโทนี คลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนเคนยา ไนจีเรีย และเซเนกัล โดยมีข้อสังเกตว่า เขาดูเหมือนจะอ่อนน้อมกว่าอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และไม่ได้บีบบังคับให้ประเทศแอฟริกาเลือกข้าง ทว่ายังคงหมายจะ“ แทรกกลาง” ระหว่างจีน-แอฟริกา เพื่อยับยั้งจีนในด้านการต่างประเทศ
การคบกันนั้นสำคัญอยู่ที่ความจริงใจ นานมาแล้วการที่สหรัฐฯ คบกับแอฟริกาเป็นเรื่องหอมปากหอมคอเท่านั้น หรือ ไม่ก็จะมีเงื่อนไขบังคับทางการเมืองจึงจะให้ความช่วยเหลือ โดยใช้แอฟริกาเป็นเครื่องมือในการเล่นเกมภูมิรัฐศาสตร์ สหรัฐฯ ไม่เคยเอาใจใส่การพัฒนาของแอฟริกาอย่างจริงจัง
เมื่อเทียบกันแล้วจีนมีความซื่อสัตย์สุจริตต่อมิตรแอฟริกามาตลอด เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานีโทรทัศน์ซิมบับเวแห่งหนึ่งถ่ายทำสารคดีเรื่องจีนมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ซิมบับเว ช่วยให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวในเมืองวิคตอเรียฟอลส์ของซิมบับเว “มีอัตราการติดเชื้อต่ำและการเสียชีวิตเป็นศูนย์” การท่องเที่ยวมีชีวิตชีวาอีกครั้งและเศรษฐกิจฟื้นตัว ทั้งนี้ ในโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของซิมบับเว วัคซีนกว่า 95% มาจากจีน
ไม่เพียงเท่านี้ จีนยังรั้งตำแหน่งคู่ค้าอันดับ 1 ของแอฟริกา 12 ปีซ้อน ยอดการค้าจีน-แอฟริกาเพิ่มขึ้น 20 เท่านับตั้งแต่มีการประชุมฟอรัมความร่วมมือจีน-แอฟริกา ขณะที่การลงทุนโดยตรงต่อแอฟริกาของจีนเพิ่มขึ้น 100 เท่า ทั้งหมดนี้ไม่มีเงื่อนไขบังคับทางการเมืองใด ๆ จีนยึดหลักการยกระดับความผาสุกของประชาชนแอฟริกาให้สูงขึ้น
รายงานผลสำรวจจากสถาบัน “Afrobarometer” ของแอฟริกาเมื่อเร็ว ๆ นี้ระบุว่า จีนครองอันดับ 1 ด้านผู้ทรงอิทธิพลในแอฟริกา โดยผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 63 เห็นว่า จีนมีอิทธิพลทางการเมืองและเศรษฐกิจต่อประเทศตนเชิงบวก “มาก” หรือ “ค่อนข้างมาก”
หากเจ้าหน้าที่อาวุโสสหรัฐฯ ต้องการได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง ก็ควรหันมาให้ความสำคัญต่อวาระทวีปแอฟริกาของสหรัฐฯ อย่างจริงจัง หาใช่เกาะติดจีนผู้ซึ่งมีตัวตนอยู่ในแอฟริกา
(TIM/LING/CAI)