วันที่ 16 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่าน “มติป้องกันการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์” ซึ่งมติฉบับนี้ถือสิ่งที่เรียกว่า “การบังคับใช้แรงงาน” เป็นข้ออ้าง ห้ามสินค้าซินเจียงเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ
ทั้งนี้เป็นการควบคุมทางการเมืองและการกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจโดยนักการเมืองบางคนที่ถือสิทธิมนุษยชนเป็นข้ออ้าง แสดงให้เห็นถึงเจตนาร้ายของพวกเขาที่หมายจะยับยั้งการพัฒนาของซินเจียงและเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจีน ทว่าการที่พวกเขาพยายามสุดความสามารถเพื่อ “ใช้ซินเจียงคว่ำบาตรจีน” ย่อมจะต้องล้มเหลวไป
ไม่ว่าการหางานทำในพื้นที่ใกล้บ้านหรือออกไปทำงานต่างถิ่นล้วนเป็นวิถีทางการแสวงหาชีวิตอันมีความสุขของชาวซินเจียง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของซินเจียงคนหนึ่ง ถามว่า “คนรุ่นใหม่ออกนอกบ้านเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดียังต้องถูกบังคับหรือ”
เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า “การบีบบังคับใช้แรงงาน” เป็นข่าวปลอมซึ่งถูกข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้ว บุคคลบางคนของสหรัฐฯ ทำไมยังจะยึด “ไพ่ซินเจียง” จนไม่ยอมปล่อย? ออสเตรเลียน อาเลิร์ต เซอร์วิส (Australian Alert Service) ซึ่งเป็นสื่อออสเตรเลียสรุปในรายงานว่า เป้าหมายของพวกเขาก็คือ “ยั่วยุให้เกิดการปะทะระหว่างชนชาติและศาสนา ก่อลัทธิแตกแยกและลัทธิก่อการร้าย เพื่อทำลายประเทศจีนซึ่งเป็น “ศัตรูในจินตนาการ”
ทั้งนี้ก็จะเข้าใจไม่ยากเลยว่า ทำไมรัฐสภาสหรัฐฯ จึงมีมติที่เกี่ยวข้องกับซินเจียงโดยถือ “สิทธิมนุษยชน” เป็นข้ออ้าง ด้านหนึ่ง ชาวอเมริกันบางคนหมายจะให้แผนร้ายของตนเองเป็นเรื่องที่ชอบธรรม อีกด้านหนึ่ง สหรัฐฯ อยากถือมติมาบังคับให้ประเทศอื่นเลือกฝ่าย โดดเดี่ยวและกดดันจีน แผนจริงของสหรัฐฯ คือ ยับยังการพัฒนาอุตสาหกรรมของซินเจียง หมายจะสร้างการ “บังคับยากจน” และ “บังคับว่างงาน” ในท้องถิ่น
ไม่ว่าข่าวปลอมและการควบคุมทางการเมืองใดก็จะลบผลงานการพัฒนาของซินเจียงไม่ได้ รวมถึงขัดขวางความเจริญรุ่งเรืองของซินเจียงไม่ได้ นักการเมืองสหรัฐฯ บางคนอย่ายื่นมือยาวเกินควร แก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนของประเทศตนก่อนจะดีกว่า การก่อเรื่องที่ “สิทธิมนุษยชนปลอมแต่เป็นการครองอำนาจใหญ่จริง” จะทำให้ตนเสียชื่อเสียงและล้มเหลวในที่สุด
Tim/LR/Cui