ในช่วงที่สหรัฐฯกำลังจัดตั้งกลุ่มประเทศเพื่อสกัดกั้นจีน   ญี่ปุ่นไม่คำนึงถึงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ได้แสดงบทบาทที่น่าอับอายในฐานะเป็นตัวหมากในเกมของสหรัฐฯ

ญี่ปุ่นไม่เพียงแต่ให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันกับสหรัฐฯ บนเวทีทวิภาคีและพหุภาคีเท่านั้น แต่ยังมาท้าทายและแทรกแซงกิจการภายในของจีนตามอำเภอใจในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน ฮ่องกง และซินเจียงอย่างต่อเนื่อง 

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้ทำหน้าที่เป็น “ลูกน้อง” ที่สำคัญของสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก   รัฐบาลญี่ปุ่นได้แสดง “ความจงรักภักดี” ต่อสหรัฐอเมริกาอย่างเปิดเผย   ดังที่เห็นได้จากคำพูดและการกระทำของญี่ปุ่นในระหว่างนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯเยือนญี่ปุ่น 

เช่น เพิ่มงบประมาณการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นอย่างมาก และประสานเสียงเป็นหนึ่งเดียวกับสหรัฐฯในการคว่ำบาตรรัสเซีย ตลอดจนพยายามเตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การนาโต้ที่ใกล้จะจัดขึ้น  ญี่ปุ่นได้แสดงออกความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสร้างความพอใจให้กับสหรัฐฯไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม 

ในนโยบายการต่างประเทศที่มีต่อจีน  รัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ติดตามรัฐบาลสหรัฐฯอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด  โดยพยายามโดดเดี่ยวจีนและเผชิญหน้ากับจีน มิหนำซ้ำยังเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของจีนด้วย 

เมื่อเร็วๆนี้ ผู้นำญี่ปุ่นบางคนได้แสดงความคิดเห็นที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับประเด็นปัญหาไต้หวันอีกครั้ง และยังคงส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้องไปยังกลุ่มอิทธิพลที่จะให้ไต้หวันเป็นเอกราช  ซึ่งเผยให้เห็นถึงแผนอุบายของญี่ปุ่นที่จะขัดขวางการรวมชาติของจีนและการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน 

ญี่ปุ่นยังเป็นที่พักพิงหลักของกลุ่มอิทธิพลแบ่งแยกดินแดนจีนและจะให้ซินเจียงและทิเบตเป็นเอกราชด้วย เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา สมาชิกรัฐสภาญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มอิทธิพลแบ่งแยกดินแดนเหล่านี้ และได้ทำในสิ่งที่ไม่อาจเปิดเผยให้ชาวโลกเห็นมาเป็นเวลานาน 

เมื่อปลายปี 2020 สำนักข่าว Kyodo News ของญี่ปุ่นรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่ง“ข่าวกรอง” ที่เกี่ยวข้องกับซินเจียงไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สหรัฐฯนำไปใช้เป็นประโยชน์ 

เมื่อต้นปีนี้ รัฐสภาญี่ปุ่นได้ผ่านสิ่งที่เรียกว่า “มติเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน”ที่พุ่งเป้าไปยังจีน  โดยได้กล่าวหาจีนละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไม่มีมูล  เปิดเผยให้เห็นถึงเจตนาร้ายของญี่ปุ่นที่จะเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจีน 

รัฐบาลญี่ปุ่นมิเพียงสมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐฯในการเผชิญหน้ากับจีน ยังพยายามยุยงปลุกปั่นให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนด้วย  ยิ่งไปกว่านั้น ญี่ปุ่นมักจะหลบซ่อนอยู่เบื้องหลัง แล้วสร้างความเสียหายให้กับจีน  

แต่ไม่ว่าญี่ปุ่นจะทำอะไรเพื่อยืนในแนวหน้าก็ตาม  ประเทศนี้ไม่สามารถเปลี่ยนสถานะของตนที่เป็นตัวหมากในเกมของสหรัฐอเมริกาได้ สหรัฐฯไม่เพียงแต่มีสิทธิส่งกำลังทหารไปประจำการในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีอำนาจเด็ดขาดในการกำหนดการทูตของญี่ปุ่นด้วย นับเป็นความอับอายน่าสมเพชของญี่ปุ่น

(yim/cai)