ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อยับยั้งการผงาดขึ้นของจีนและรักษาสถานะการครองความเป็นเจ้าในทั่วโลก สหรัฐฯได้เปิดสงครามการค้าและสงครามเทคโนโลยีกับจีน กระทั่งขับเคลื่อน "การแยกออกจากกัน" และ "การตัดขาดห่วงโซ่" กับจีน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ในช่วงระยะหลังๆนี้ได้ปรากฏรายงานของสื่อบางสำนักและมุมมองของนักวิชาการบางกลุ่มในประชาคมระหว่างประเทศบ่อยครั้งที่เห็นว่า คาดว่าจะมีเงินทุนต่างประเทศจำนวนมากถอนตัวออกจากตลาดจีน ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน
แต่ทว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหาใช่เช่นนี้ไม่ ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของจีน เมื่อปี 2021 ขนาดการใช้เงินทุนต่างประเทศตามความเป็นจริงของจีนอยู่ที่ 1,149.36 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับปี 2020 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยเฉพาะการใช้เงินทุนต่างประเทศตามความเป็นจริงในอุตสาหกรรมไฮเทคเพิ่มขึ้น 17.1% เมื่อเทียบกับปี 2020
ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ จีนใช้เงินทุนต่างประเทศตามความเป็นจริง 564.2 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 17.3% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2021 หากแปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐคือ 87.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 22.6% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2021
ทั้งนี้อาจอยู่เหนือการคาดการณ์ของสื่อบางสำนักและนักวิชาการบางคน แต่ในความเป็นจริงก่องหน้านี้ก็เคยมีกรณีลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อครั้งสหรัฐฯเปิดสงครามการค้ากับจีนนั้นเคยมีผู้คนจำนวนมากคาดว่า การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯจะลดลงอย่างมาก แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
จะเห็นได้ว่าแม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภูมิรัฐศาสตร์ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีวิสาหกิจทุนต่างชาติจำนวนหนึ่งได้เริ่มกระจายการลงทุน แต่การลงทุนในจีนไม่ได้ชะลอตัวลงแต่อย่างใดเลย
ในตลาดหุ้น A-share ของจีน มีการไหลออกสุทธิของเงินทุนต่างประเทศในระยะสั้นเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ แต่ได้กลายเป็นการไหลเข้าสุทธิเมื่อเดือนเมษายน และขนาดของการไหลเข้าสุทธิเมื่อเดือนพฤษภาคมขยายตัวมากขึ้นด้วย ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าการที่เงินทุนต่างประเทศกลับเข้าสู่สภาวะที่ไหลเข้าสุทธิในจีนนั้น สอดคล้องกับการตัดสินในระยะยาวของนักลงทุนต่างประเทศที่มองจีนในทางบวกอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนขนาดของการไหลเข้าสุทธิได้ขยายตัวมากขึ้นนั้นถือเป็นการยอมรับมาตรการต่างๆที่จีนได้ดำเนินการเพื่อบูรณาการการป้องกันควบคุมโควิด-19 กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ
มีตัวอย่างมากมายเกี่ยวกับบริษัทต่างชาติที่มีชื่อเสียงมองตลาดจีนในทางบวก เช่น ค่ายรถยนต์ BMW ได้เพิ่มทุน 27.9 พันล้านหยวนเพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท BMW บริลเลี่ยนซ์มอเตอร์เป็น 75% และเมื่อวันที่ 3 มิถุนายนปีนี้ บริษัท Uniqlo ได้เปิดร้านใหม่ 12 สาขา ทำให้จำนวนร้านค้าในแผ่นดินใหญ่จีนทะลุ 880 แห่ง ฝ่าย Uniqlo แนะนำว่า บริษัทคาดหวังสูงต่อตลาดจีนและจะเปิดสาขาใหม่ในจีนต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้รับทราบจากกรมนิทรรศการสินค้านำเข้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนว่า งานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติแห่งประเทศจีน(China International Import Expo : CIIE) ครั้งที่ 5 จะจัดขึ้นตามกำหนดระหว่างวันที่ 5-10 พฤศจิกายนปีนี้ ผู้ร่วมแสดงสินค้าทั่วโลกกำลังลงทะเบียนเข้าร่วมงานและลงนามในสัญญาด้วยความกระตือรือร้น สัดส่วนของพื้นที่ที่ทำสัญญาแล้วเกิน 75% ของพื้นที่ทั้งหมดตามที่วางแผนไว้ สิ่งที่น่าสนใจคือ บริษัทชั้นนำ 500 อันดับแรกและบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆของโลกยังคงมีความนิยมชื่นชอบในงาน CIIE เช่นเคย โดยมีการลงนามสัญญาแล้วมากกว่า 250 บริษัท
การลงทุนในประเทศจีนก็คือการลงทุนในอนาคต ตามรายงานล่าสุดที่เผยแพร่โดยหอการค้าเยอรมันและหอการค้าอเมริกันในจีน วิสาหกิจทุนเยอรมัน 71% และวิสาหกิจทุนอเมริกันกว่า 60% ได้วางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในจีน “สมุดปกขาวว่าด้วยสภาวะวิสาหกิจอเมริกันในจีน” ประจำปี 2022 ที่เผยแพร่โดยหอการค้าอเมริกันในจีนแสดงว่า ขอคัดค้านสหรัฐฯกับจีนเกิด "การแยกออกจากกัน" อย่างแน่วแน่ และสนับสนุนการขยายการยกเว้นภาษีศุลกากรให้กับสินค้าจากจีน
ประเทศจีนในทุกวันนี้มีข้อได้เปรียบหลายประการในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เช่น ขนาดประชากร 1.4 พันล้านคน, กำลังแรงงานกว่า 900 ล้านคน, บุคลากรที่มีการศึกษาระดับอุดมศึกษาและมีทักษะมากกว่า 170 ล้านคน, GDP เฉลี่ยต่อหัวกว่า 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ, กลุ่มรายได้ปานกลางกว่า 400 ล้านคน, ยอดจำนวนผู้ประกอบการในตลาดเกิน 150 ล้านราย, ระบบอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมทุกแขนงงาน, ขนาดเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ครองอันดับหนึ่งของโลก ตลอดจนสภาพแวดล้อมทางธุรกิจแบบการตลาด ยึดหลักนิติธรรมและมีความเป็นสากลซึ่งได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฯลฯ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่า การลงทุนที่ชาญฉลาดมักจะแสวงหาผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว กล่าวสำหรับทุนต่างประเทศแล้ว "ระยะยาว" ของตลาดจีนนั้นได้มีการสะท้อนให้เห็นตรงที่ว่า ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ความมุ่งมั่นตั้งใจของจีนที่จะขยายการเปิดประเทศในระดับสูงนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง และความเต็มใจที่จะเสนอโอกาสทางการตลาด โอกาสการลงทุน และโอกาสแห่งการเติบโตให้กับทั่วโลกมากยิ่งขึ้นนั้นก็จะไม่เปลี่ยนแปลงเช่นกัน ส่วน"ความมั่นคง"ของตลาดจีนสะท้อนให้เห็นตรงที่ว่า จีนมีความได้เปรียบหลายด้าน เช่น ระบบอุตสาหกรรมที่ครบถ้วน ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์แบบ และตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เป็นต้น ซึ่งยังคงมีแรงจูงใจต่อไปอย่างทรงพลัง "การเพิ่มขนาด"ในจีนของทุนต่างประเทศนั้นนับเป็น "การกดไลค์" อย่างจริงจังต่อศักยภาพทางการตลาดและแนวโน้มทางเศรษฐกิจของจีนนั่นเอง
จึงมีเหตุผลให้เชื่อมั่นได้ว่า การลงทุนในจีนจากต่างประเทศจะยังคงมีความร้อนแรงในระยะยาว และตลาดจีนก็ย่อมจะนำโอกาสใหม่ๆ มาสู่ทั่วโลกอย่างแน่นอน
YIM/LU