รายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ปัจจุบัน ทั่วโลกมีประชากรจำนวนเกือบ 1,000 ล้านคนมีอาการป่วยทางจิต การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้สถานการณ์ดังกล่าวทวีความรุนแรง
อนึ่ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ องค์การอนามัยโลกออกรายงานเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตของประชากรทั่วโลกประจำปี 2022 โดยเรียกร้องให้องค์การระหว่างประเทศและรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ใช้ปฏิบัติการในการสร้างสิ่งแวดล้อมใหม่ที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสุขภาพจิต
วันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะกล่าวสุนทรพจน์ในงานประชาสัมพันธ์วิดีทัศน์เรื่อง “รายงานสุขภาพจิตโลกประจำปี 2022 : ให้ทุกคนได้รับการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิต” ที่จัดทำโดยองค์การอนามัยโลก นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเตือนว่า เรากำลังเผชิญวิกฤตสุขภาพจิตเชิงทั่วโลกอยู่
รายงานดังกล่าวระบุว่า ทั่วโลกมี 1 ใน 8 คนมีปัญหาด้านสุขภาพจิต โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการปะทะกัน อัตราส่วนของผู้ที่มีปัญหาทางจิตจะสูงกว่านี้เสียอีก คิดเป็นประมาณ 1 ใน 5 ในประเทศที่มีรายได้สูง ซึ่งผู้ที่มีปัญหาทางจิต 70% จะได้รับการรักษา แต่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำ ผู้ที่มีปัญหาด้านนี้มีเพียง 12% เท่านั้นที่ได้รับการรักษา
รายงานดังกล่าวระบุว่า ผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพจิตที่มีอาการหนักจะเสียชีวิตก่อนคนปกติเป็นเวลา 10-20 ปี อนึ่ง การเผชิญกับวิกฤตด้านสุขภาพจิตโลกครั้งนี้ เยาวชนเป็นกลุ่มที่ต้องน่าเอาใจใส่ยิ่ง
ก่อนหน้านี้ กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติได้ออกรายงานเกี่ยวกับภาวะของเด็กในโลกประจำปี 2021 โดยระบุว่า เยาวชนทั่วโลกมี 1 ใน 7 มีอุปสรรคทางด้านจิตใจ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้วิกฤตสุขภาพจิตของวัยรุ่นทั่วโลกกำลังเผชิญกับสภาพทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
จากรายงานดังกล่าว ปัญหาสุขภาพจิตเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กและเยาวชนวัย 0-19 ปีรู้สึกทุกข์ระทม กระทบสุขภาพและการเรียน ทั้งนี้ ข้อมูลเมื่อปี 2020 คาดว่ากลุ่มเยาวชนวัย 10-19 ปี มีประมาณ 13% มีปัญหาด้านจิตใจตามนิยามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้
กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติระบุว่า การปิดโรงเรียนและมาตรการจำกัดเพื่อป้องกันโควิด-19 ได้ขัดขวางการติดต่อทางสังคมที่เป็นคุณ บวกกับครอบครัวต่าง ๆ เผชิญการท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ได้ส่งผลกระทบทางลบต่อสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน
รายงานดังกล่าวยังคาดการณ์ว่า ทุกปีมีเด็กและเยาวชนวัย 10-19 ปี คิดฆ่าตัวตายจำนวน 46,000 คน ซึ่งการฆ่าตัวตายกลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5 ของเด็กและเยาวชนวัย 10-19 ปี เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 4 ของเยาวชนวัย 15-19 ปี
(YIM/ZHOU)