วันที่ 7 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่น นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีต่างประเทศจีน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายสุพรหมณยัม ชัยศังกร รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ในประเด็นยูเครนนอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี 20 ที่บาหลี เกาะท่องเที่ยวของอินโดนีเซีย

นายหวัง อี้ ได้ชี้แจงความกังวล 3 ประการของจีนเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันในยูเครน

ประการแรก จีนคัดค้านการใช้วิกฤตยูเครนเป็นประโยชน์ในการปลุกระดมแนวคิดสงครามเย็นและยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มประเทศ ตลอดจนก่อให้เกิด “สงครามเย็นครั้งใหม่”

นายหวัง อี้ กล่าวว่า เมื่อเผชิญกับความท้าทายที่สลับซับซ้อนและรุนแรง โลกให้ความสำคัญกับความสามัคคีมากกว่าการแบ่งแยก และสิ่งที่จำเป็นคือการพูดคุยเจรจามากกว่าการเผชิญหน้า จีนจะยังคงยืนหยัดในความถูกต้องทางประวัติศาสตร์และส่งเสริมการเจรจาสันติภาพอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

ประการที่สอง จีนคัดค้านการใช้สองมาตรฐานที่บ่อนทำลายอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน บางประเทศเน้นย้ำหลักการอธิปไตยในประเด็นยูเครน แต่กลับท้าทายอำนาจอธิปไตยของจีนและหลักการจีนเดียวในประเด็นไต้หวัน มิหนำซ้ำยังจงใจสร้างความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน เห็นได้ชัดว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้สองมาตรฐานที่โจ่งแจ้ง

นายหวัง อี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า จีนคัดค้านแผนอุบายใดที่จะทำให้วิกฤตยูเครนเทียบเท่ากับประเด็นปัญหาไต้หวัน จีนจะปกป้องผลประโยชน์หลักของตนอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

ประการที่สาม จีนไม่เห็นด้วยกับการกระทำใด ๆ ที่บ่อนทำลายสิทธิอันชอบธรรมในการพัฒนาของประเทศอื่น บางประเทศใช้มาตรการคว่ำบาตรโดยลำพังฝ่ายเดียวต่อจีนและประเทศอื่น โดยใช้วิกฤตยูเครนเป็นข้ออ้าง ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่มีเหตุผลใดและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ได้บ่อนทำลายการแลกเปลี่ยนตามปกติระหว่างรัฐกับรัฐ และละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศที่มีอยู่ ทั้งยังทำให้วิกฤตยูเครนมีความสลับซับซ้อนและขยายวงกว้างออกไปมากขึ้นด้วย

นายหวัง อี้ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมกันต่อต้านการกระทำเหล่านั้น และพยายามสร้างสภาพแวดล้อมความร่วมมือระหว่างประเทศที่เปิดกว้าง ยุติธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ

(tim/cai)