ขณะนี้ จีนกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากในการส่งเสริมการปฏิรูป การพัฒนา และการรักษาเสถียรภาพ เนื่องจากสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงและการระบาดของโควิด-19ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบศตวรรษที่ผ่านมากำลังทำให้โลกเข้าสู่ความปั่นป่วนรอบใหม่
ภายใต้ภูมิหลังเช่นนี้ นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานาธิบดีจีน ได้เน้นย้ำถึงการพัฒนาที่มี่คุณภาพและความปลอดภัยในระดับสูง จีนกำลังใช้ความพยายามเพื่อสร้างอนาคตที่สดใสของเศรษฐกิจ
ก่อนอื่น จีนพยายามรักษาความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่สลับซับซ้อนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จีนได้เน้นปกป้องความปลอดภัยของสาขาเศรษฐกิจสำคัญ เพื่อสร้างหลักประกันแก่การพัฒนาที่มีคุณภาพ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ตลาดพลังงานและธัญพืชทั่วโลกประสบกับความผันผวนที่รุนแรง ทำให้เกิดแรงกดดันต่ออุปทานภายในประเทศและเสถียรภาพด้านราคา
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวในการประชุมกิจการด้านเศรษฐกิจส่วนกลาง ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2021 ว่า “สำหรับประเทศใหญ่เช่นจีน การรับประกันอุปทานของสินค้าหลักเป็นประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เราต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กับการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อประกันความมั่นคงด้านอุปทาน”
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ชี้ว่า ความมั่นคงด้านอาหารมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ และย้ำว่า ทุกฝ่ายต้องไม่มองข้ามปัญหาความมั่นคงด้านอาหาร
ช่วงที่ผ่านมา จีนได้ดำเนินมาตรการหลายประการ เพื่อมั่นใจว่า ผลผลิตธัญพืชในปีนี้จะเกิน 650 ล้านตัน ปัจจุบัน พื้นที่ปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวในจีนยังคงทรงตัวอยู่ที่ 330 ล้านหมู่ (22 ล้านเฮกตาร์) จึงเป็นรากฐานที่ดีสำหรับการเก็บเกี่ยวในฤดูร้อนปีนี้
เนื่องจากพลังงานเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาความปลอดภัยด้านอุปทานทางพลังงานของประเทศ
เพื่อประกันความมั่นคงด้านพลังงาน จีนจะเพิ่มกำลังการผลิตถ่านหินอีก 300 ล้านตันภายในปีนี้ การสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะได้รับการสนับสนุนมากขึ้น และจะมีการเร่งสร้างสถานีกำเนิดไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่และสถานีกำเนิดไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์ นอกจากนี้ การนำเข้าถ่านหินจะได้รับการยกเว้นภาษีระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคมปีนี้ ถึง 31 มีนาคมปีหน้า
จีนยังมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และส่งเสริมการพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยี เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ C919 ที่จีนพัฒนาขึ้นด้วยตนเองนั้นเป็นตัวอย่างที่ดี
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวในระหว่างการเยือนบริษัทเครื่องบินพาณิชย์แห่งประเทศจีน (COMAC) เมื่อ 8 ปีที่แล้วว่า “เราจะต้องมีเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ของเราเอง”
นักวิจัยจีนได้ใช้ความพยายามเต็มที่ เพื่อเอาชนะปัญหาทางเทคนิคต่างๆในการผลิตเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ เครื่องบินโดยสาร C919 ลำแรกที่จะส่งมอบได้เสร็จสิ้นการบินทดสอบครั้งแรกด้วยความสำเร็จเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา
โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จีนให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวเน้นในการประชุมคณะกรรมการด้านการเงินและเศรษฐกิจส่วนกลางครั้งที่ 11 ว่า ต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยภายในประเทศ โครงสร้างพื้นฐานเป็นเสาหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องประสานงานด้านการพัฒนาและความมั่นคง พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผน การจัดโครงสร้าง การใช้งาน และรูปแบบการพัฒนาของโครงสร้างพื้นฐาน
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ย้ำถึงความสำคัญในการส่งเสริมการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างครอบคลุมอีกครั้งหนึ่งระหว่างการประชุมกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน
หลังจากนั้น หน่วนงานส่วนกลางและหน่วยงานส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ มีการกำหนดแผนและพิมพ์เขียวเกี่ยวกับการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ยังเป็นจุดอ่อนให้ทันสมัยขึ้นอย่างเป็นขั้นตอน โดยเร่งดำเนินโครงการขนาดใหญ่ 102 โครงการที่ได้กำหนดไว้ในแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (ค.ศ. 2021-2025)
จากเงินลงทุน 8 แสนล้านหยวนที่จัดสรรสำหรับดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำในปีนี้ มีการลงทุนไปแล้ว 195,800 ล้านหยวนตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน เพิ่มขึ้น 45.5% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว
ในขณะเดียวกัน จีนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีและดิจิทัล เพื่อปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจให้ดีขึ้นและส่งเสริมการสร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ทางเศรษฐกิจ
ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ สถานี 5G ในประเทศซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลดิจิทัลมีจำนวนเพิ่มขึ้นประมาณ 134,000 แห่ง ทำให้ยอดรวมอยู่ที่เกือบ 1.56 ล้านแห่ง เมื่อต้นปีนี้ จีนได้เริ่มดำเนินโครงการสร้างศูนย์กลางการประมวลผลระดับชาติ 8 แห่งและศูนย์รวมข้อมูลระดับประเทศ 10 แห่ง เพื่อยกระดับความสามารถโดยรวมในการประมวลผลและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร
การเสริมสร้างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างรอบด้านและการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยของจีนนั้นได้คำนึงถึงความต้องการระยะสั้นและเป้าหมายในระยะยาว เป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาในอนาคตและเป็นโอกาสดีสำหรับการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีด้วย
(YIM/cai)