อำเภอเจิ้งติ้งเป็นอำเภอที่มีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมทางตอนเหนือของจีน ในช่วงการทำงานที่นั่นนอกจากการให้ความสำคัญกับทุกข์สุขของประชาชนแล้ว นายสี จิ้นผิงยังให้ความสำคัญกับงานด้านวัฒธธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยว
ย้อนไปเมื่อปี 1983 กองละครโทรทัศน์ของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีนจะถ่ายทำละครโทรทัศน์เรื่อง “ความฝันในหอแดง” วรรณกรรมคลาสสิกที่มีชื่อเสียง 1 ใน 4 ของจีน โดยจะสร้างสวน “ต้ากวนหยวน” จำลองที่กรุงปักกิ่ง และวางแผนจะก่อสร้างตำหนัก “หรงกั๋วฝู่” และถนนหนิงหรง ฉากสำคัญของวรรณกรรมเรื่องความรักในหอแดงในพื้นที่ใกล้ ๆ กรุงปักกิ่ง
เมื่อนายสี จิ้นผิงได้รู้ข่าวดังกล่าว ประกอบกับกำลังคิดจะพัฒนาการท่องเที่ยวของอำเภอเจิ้งติ้งอยู่แล้ว เขาหวังให้อำเภอนี้กลายเป็นหน้าต่างของเมืองสือเจียงจวง เมืองเอกมณฑลเหอเป่ย
เมื่อได้พูดคุยกับทีมงานกองละคร ทางสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางของจีนก็ตกลงที่จะก่อสร้างฉากตำหนักหรงกั๋วฝู่และถนนหนิงหรงในอำเภอเจิ้งติ้ง เพื่อใช้ในการถ่ายทำละครโทรทัศน์เรื่องความรักในหอแดง โดยอำเภอเจิ้งติ้งได้จัดสรรพื้นที่ 40 โหม่ว มีสถานีโทรทัศน์ส่วนกลางเป็นผู้ลงทุนจำนวน 570,000 หยวน
แต่นายสี จิ้นผิง กลับมองว่าถ้าสร้างแค่ฉากถ่ายเสร็จก็ต้องรื้อ หากสร้างเป็นสิ่งปลูกสร้างถาวรนอกจากการถ่ายทำจะสมจริงแล้ว ยังเป็นสถานที่สำหรับส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอเจิ้งติ้งอีกด้วยเมื่อละครเรื่องนี้ออกอากาศคนดูก็จะรู้จักและอยากมาเที่ยวที่นี่
แต่การสร้างฉากกับสิ่งปลูกสร้างถาวรนั้นก็มีงบประมาณที่ต่างกันจากเงิน 5 แสนกว่าหยวน ต้องกลายเป็นเงิน 3 ล้านหยวน ผู้นำของอำเภอเจิ้งติ้งบางคนไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เพราะนอกจากจะต้องลงทุนมากและยังไม่มีอะไรที่รับประกันได้ว่าแนวคิดนี้จะประสบความสำเร็จ
แต่นายสี จิ้นผิงยังคงยืนหยัดที่จะให้สร้างตำหนักหรงกั๋วฝู่ เพราะเขาแน่ใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวตามรอยละครมาเที่ยวที่นี่ และจะสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบเช่น ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกบนถนนหรงหนิง เพราะเดิมที่อำเภอแห่งนี้มีวัดหลงซิงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพียงแห่งเดียว นักท่องเที่ยวใช้เวลาเที่ยวแค่ครึ่งวันก็เสร็จ แต่ถ้ามีสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มก็จะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวรวมถึงกระตุ้นการบริโภคและใช้จ่ายในอำเภอเจิ้งติ้งให้มากยิ่งขึ้น
และในที่สุดทางการอำเภอเจิ้งติ้งตกลงที่จะก่อสร้างตำหนักหรงกั๋วฝู่ ก่อนที่ความรักในหอแดงจะถ่ายทำเสร็จ ตำหนักหรงกั๋วฝู่ก็เริ่มเป็นที่สนใจของบรรดานักท่องเที่ยว ในช่วงวันหยุดยาววันชาติประจำปี 1986 มีนักท่องเที่ยวจำนวนกว่าหมื่นคนพากันมาเที่ยวชมตำหนักแห่งนี้ คนต่อคิวยาวถึง 1 กิโลเมตรเพื่อเข้าชมตำหนัก
จากสถิติระบุว่าปีแรกของการเปิดให้เข้าชมตำหนักหรงกั๋วฝู่ ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวถึง 1.3 ล้านคน/ครั้ง รายได้จากการจำหน่ายบัตรเข้าชมมีถึง 2.21 ล้านหยวน ในขณะที่รายได้ด้านการท่องเที่ยวของตำหนักหรงกั๋วฝู่มีถึง 17.68 ล้านหยวน ผลักดันการท่องเที่ยวของอำเภอเจิ้งติ้งอย่างก้าวกระโดด และสร้างแบบอย่างการพัฒนาการท่องเที่ยวของอำเภอเจิ้งติ้ง
(BO/LU/ZHOU)