จีนเปิดเผยถึงกรณีที่ประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐฯ ลงนามในญัตติว่าด้วยแผ่นชิบและวิทยาศาสตร์ ว่าสื่อมวลชนสหรัฐฯ ล้วนแสดงท่าทีเป็นลบ หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงานว่าญัตติดูเหมือนกับมีความหวังดีแต่คงยากที่จะเป็นจริงในอีกหลายปีข้างหน้า

สื่อจีนรายงานว่าญัตติฉบับนี้มีความยาวหลายพันหน้าไม่ได้รับการยอมรับก็เพราะเนื้อหาสาระจนถึงวัตถุประสงค์ไม่มีความเที่ยงธรรม เนื้อหาสาระสำคัญของญัตติมีสามส่วน ประการแรกจะให้เงินทุนสนับสนุน 52,700 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับแขนงงานกึ่งตัวนำ ประการที่สองจะยกเว้นภาษีการลงทุน 25% ซึ่งมียอดมูลค่าประมาณ 24,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ให้กับวิสาหกิจ และประการที่สามจะผันเงินประมาณ 200,000 ล้านเหรียญสนับสนุนการพัฒนาเอไอและหุ่นยนต์

ความน่าสนใจคือญัตติฉบับนี้กำหนดว่าวิสาหกิจที่ได้รับการอุดหนุนจากสหรัฐฯ ห้ามมีการค้าขายรายใหญ่กับประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ที่สหรัฐฯ กังวลภายในระยะเวลา 10 ปี กติกาที่เหมือนกับเป็นรั้วป้องกันตนเองเหล่านี้ได้เจาะจงถึงประเทศจีนโดยตรง แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ มีความเครียดที่จะดำเนินยุทธศาสตร์ยับยั้งจีน หลายปีมานี้จีนและบางประเทศมีผลคืบหน้าในการผลิตกึ่งตัวนำทำให้สหรัฐฯ กังวล ญัตติจึงคุกคามวิสาหกิจแผ่นชิบต้องเลือกข้างใดข้างหนึ่ง มุ่งสร้างอุปสรรคให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมแผ่นชิบของจีนและประเทศอื่นๆ เสริมฐานะมั่นคงของสหรัฐฯ ในการผลิตแผ่นชิบซึ่งเป็นเหตุผลจริงที่สหรัฐฯ ออกญัตติฉบับนี้

สหรัฐฯ มีสิทธิ์พัฒนาตนเองแต่ไม่ควรยับยั้งการพัฒนาของประเทศอื่นเป็นค่าตอบแทน นโยบายป้องกันอุตสาหกรรมแผ่นชิบที่นำโดยแนวคิดสงครามเย็นแบบนี้ ย่อมจะฝ่าฝืนความปรารถนาของชาวโลก

องค์กรสหรัฐฯ แห่งหนึ่งประเมินว่าหากวอร์ชิงตันดำเนินนโยบายบังคับให้ตัดความสัมพันธ์กับบริษัทหัวเหวยในด้านเทคโนโลยี อาจจะสร้างอุปสรรคให้จีนในระยะสั้นแต่วิสาหกิจกึ่งตัวนำของสหรัฐฯ จะมีผลกระทบมากกว่าจีน คาดว่าจะสูญเสียสัดส่วนตลาด 18% และรายได้ 37% ลดตำแหน่งงานของช่างไฮเทคประมาณ 15,000-40,000 ตำแหน่ง

มองจากประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ การกดดันจีนของสหรัฐฯ ไม่เคยบรรลุความพยายาม สหรัฐฯ พยายามขจัดจีนออกจาก “วงจรการบินอวกาศ” อย่างสุดความสามารถ แต่ “เทียนกง” ที่ทำงานในอวกาศปัจจุบันเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดที่พิสูจน์ให้เห็นว่ากลยุทธของสหรัฐฯ ไม่ได้ผล การแทรกแซงด้วยการเมืองนั้นขัดกับกฎเกณฑ์ตลาด การปิดล้อมเทคโนโลยีหันหลังให้แนวโน้มการพัฒนา เวลาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าสหรัฐฯ สร้างอุปสรรคให้กับคู่แข่ง ฝังระเบิดให้กับห่วงโซ่อุปทานอุปสงค์ของอุตสาหกรรมแผ่นชิบ ขุดหลุมลึกให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมแผ่นชิบทั่วโลกสุดท้ายจะสร้างผลร้ายแก่ตนเอง

Bo/Ping/Cui