วันที่ 15 สิงหาคม เป็นวันรำลึกการยอมจำนนของจักรวรรดิญี่ปุ่นปีที่ 77 เรื่องที่ทำให้ทั่วโลกไม่ไว้วางใจคือแนวคิดหลักนิยมทางทหารกำลังมีแนวโน้มฟื้นตัวในญี่ปุ่น โดยมุ่งที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูณว่าด้วยสันติภาพหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะท่าทีที่อันตรายของนักการเมืองญี่ปุ่นบางคนในปัญหาไต้หวัน ยิ่งสร้างความกังวลให้ผู้คนทั้งหลาย
ในปัญหาไต้หวันญี่ปุ่นติดค้างจีนในประวัติศาสตร์จึงไม่มีสิทธิที่จะวิจารณ์ตามใจ เมื่อปีค.ศ. 1895 จักรวรรดิญี่ปุ่นรุกรานเข้ายึดเกาะไต้หวันและหมู่เกาะเผิงหูของจีน และดำเนินการยึดครองอำนาจยาวถึง 50 ปี สังหารชีวิตชาวไต้หวันกว่า 6 แสนคน ล้างผลาญทรัพยากรจำนวนมากในท้องถิ่น สร้างภัยพิบัติร้ายแรงในไต้หวัน “ปฏิญญาไคโร” ค.ศ.1943 และ “ปฏิญญาพอทสดัม” ค.ศ.1945 ต่างกำหนดอย่างชัดเจนว่าญี่ปุ่นควรคืนที่ดินที่เป็นของจีนไปให้จีน ซึ่งรวมถึงเกาะไต้หวันและหมู่เกาะเผิงหู ต่อจากนั้น ญี่ปุ่นได้ยอมรับ “ปฏิญญาพอทสดัม” พร้อมประกาศยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข
ปีค.ศ.1972 รัฐบาลญี่ปุ่นระบุในแถลงการณ์ร่วมระหว่างจีนกับญี่ปุ่นว่า เข้าใจและเคารพจุดยืนของรัฐบาลจีนอย่างเต็มที่ว่า ไต้หวันเป็นดินแดนของจีนที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ ทั้งนี้เป็นพื้นฐานทางการเมืองในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น
หลายปีมานี้ญี่ปุ่นมักก่อเรื่องเกี่ยวกับปัญหาไต้หวัน จากประกาศร่วมกัน “ปกป้องไต้หวัน” กับสหรัฐฯ จนถึงเผยแพร่ว่า “เรื่องของไต้หวันก็คือเรื่องของญี่ปุ่น ก็คือเรื่องของพันธมิตรญี่ปุ่น-สหรัฐฯ ” แถมยังรณรงค์ให้สหรัฐฯ ยกเลิก "ยุทธศาสตร์ที่คลุมเครือ” และประกาศท่าที “ป้องกันไต้หวันด้วยกำลังทหาร” อย่างชัดเจน ญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ พยายามสร้างความร่วมมือยอมที่จะเป็นก้าวแรกของ “ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัดจีนและทวีความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ยุยงให้สหรัฐฯ แทรกแซงมากขึ้นเพื่อให้ญี่ปุ่นมีโอกาสได้ผลประโยชน์ พร้อมสร้างข้ออ้างเพื่อที่จะดำเนินการเพิ่มงบทางทหาร เพิ่มกำลังทหาร ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยสันติภาพ และกลายเป็น “ประเทศปกติ”
เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจัดการประชุม และผ่าน “สมุดปกขาวว่าด้วยการป้องกันประเทศ” ประจำปี 2022 โดยระบุว่าควบคู่ไปกับสภาพการณ์ความมั่นคงโดยรอบที่ทวีความรุนแรง ญี่ปุ่นมีความจำเป็นต้องเพิ่มงบการป้องกันทางทหาร และเพิ่มกำลังทหารอย่างมากด้วย โดยสมุดปกขาวดังกล่าวถึงประเด็นไต้หวันโดยเฉพาะ โดยระบุว่าญี่ปุ่นจะร่วมมือกับประเทศพันธมิตร เพื่อร่วมกันรักษาความมั่นคงของไต้หวัน พร้อมยังระบุว่า “ประเทศสมาชิกนาโต้เห็นพ้องต้องกันในเรื่องที่จัดงบรายจ่ายด้านการกลาโหมให้เป็น 2% ขึ้นไปของจีเอ็นพีทั้งหมด” เห็นได้ชัดว่า กลุ่มนักเคลื่อนไหวกลุ่มขวาของญี่ปุ่นมีแผนขยายปัญหาไต้หวัน เพื่อเร่งกระบวนการ “พัฒนาสู่ความเป็นปกติ” ทางทหาร
Bo/Ldan/Zhou