วันที่ 1 กันยายน นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กล่าวปราศรัยในงานสัมมนาระดับนานาชาติผ่านระบบทางไกล เพื่อรำลึกถึงการครบรอบ 40 ปีการลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (UNCLOS) โดยมีใจความดังนี้
อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในค.ศ. 1982 ถือเป็นการเปิดบทใหม่ของธรรมาภิบาลทางทะเลทั่วโลก และได้ช่วยให้มนุษยชาติเข้าใจ ปกป้อง และใช้ประโยชน์จากทะเลได้ดีขึ้น การทบทวนกระบวนการเจรจา วัตถุประสงค์ และการปฏิบัติตามอนุสัญญาฉบับนี้เป็นแรงบันดาลใจในการแก้ไขธรรมาภิบาลทางทะเลทั่วโลกในปัจจุบัน คือ หนึ่ง - ต้องรักษาความเป็นพหุภาคี สอง - ต้องส่งเสริมความเป็นธรรมและความยุติธรรม และสาม - ต้องเปิดกว้างและก้าวไปข้างหน้า
ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาที่สำคัญด้านการเดินเรือทางทะเล จีนพยายามสร้างความสมดุลระหว่างสิทธิและผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของตนกับผลประโยชน์โดยรวมของประชาคมระหว่างประเทศ และยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ มาโดยตลอด จีนได้เข้าร่วมในกระบวนการเจรจาทั้งหมดของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล และเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้ลงนามในอนุสัญญาฉบับนี้ตั้งแต่แรก
จีนเคารพในเจตนารมณ์ของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลโดยตลอด ปฏิบัติตามพันธกรณีอย่างเคร่งครัด ปกป้องความสมบูรณ์และอำนาจของอนุสัญญาฯอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และคัดค้านการใช้กระบวนการระงับข้อพิพาทของอนุสัญญาในทางที่ผิด
จีนมีข้อคิดเห็นมาโดยตลอดว่า คู่กรณีที่เกี่ยวข้องโดยตรงควรยุติข้อพิพาททางทะเลผ่านการปรึกษาหารือฉันมิตร บนพื้นฐานของการเคารพข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์และกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึง อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลด้วย
นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเน้นย้ำว่า ต้องยืนหยัดในการร่วมสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทางทะเล ต้องยืนหยัดในการเจรจาและการปรึกษาหารือกัน เพื่อรักษาสันติภาพและความสงบสุขทางทะเล ต้องส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยาของทะเล ตลอดจนต้องรักษาหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อปรับปรุงธรรมาภิบาลทางทะเลทั่วโลก
นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนทิ้งท้ายว่า จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อบรรลุธรรมาภิบาลทางทะเลทั่วโลกที่มีระดับสูงขึ้น และสร้างคุณูปการมากขึ้นในการเพิ่มสวัสดิการทางทะเลของมนุษยชาติ
(yim/cai)