ความผูกพันของ ‘สี จิ้นผิง’ ต่อวัฒนธรรม : "ต้องอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองเสมือนหวงแหนชีวิตของตนเอง” (10)

2022-09-27 09:21:42 | CMG
Share with:

หูท่ง(ตรอกซอกซอย)และซื่อเหอย่วน(บ้านทรงสี่เหลี่ยมที่มีลานกลางบ้าน)ในฐานะเป็นสัญลักษณ์คลาสสิคทางวัฒนธรรมถือเป็นสักขีพยานแห่งการเปลี่ยนแปลงของกรุงปักกิ่งซึ่งเป็นเมืองโบราณอายุนับพันปี ประเด็นการดำรงอยู่ต่อไปและการพัฒนาของพวกมันได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนมาโดยตลอดเช่นกัน

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปี 2014 นายสีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนเดินทางไปยังหูท่งที่ชื่อ“อี่ว์เอ๋อร์” ข้างแม่น้ำยี่ว์เหอในกรุงปักกิ่ง และได้เดินเข้าไปในบ้านซื่อเหอย่วนหมายเลข 29 และ  30 ตามลำดับ สีจิ้นผิงกล่าวว่า "ผมคุ้นเคยกับหูท่งแถวนี้มาก มาวันนี้ก็เพื่อตรวจดูย่านเมืองเก่า และรับฟังความคิดเห็นของชาวชุมชนทั้งหลายเกี่ยวกับการปรับปรุงเขตเมืองเก่า"

คำบรรยายภาพ : อี่ว์เอ๋อร์หูท่งในเขตตงเฉิงกรุงปักกิ่ง ภาพถ่ายโดยสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันที่ 13 กันยายน ปี 2022

ย่านเมืองเก่ารอคอยการพัฒนา ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวชุมชนรอคอยการปรับปรุงดีขึ้นอย่างเร่งด่วน ทำอย่างไรจึงจะไม่เพียงแต่ตอบสนองความคาดหวังในชีวิตอันดีงามของชาวชุมชนในเขตเมืองเก่า แต่ยังสามารถคงไว้ซึ่งความทรงจำทางวัฒนธรรมของเมืองและการสืบสานในบริบททางประวัติศาสตร์ได้ด้วยนั้น สีจิ้นผิงได้ไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง

ในระหว่างการลงพื้นที่ตรวจงานเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ปี 2014 สีจิ้นผิงชี้ให้เห็นว่าปักกิ่งเป็นเมืองหลวงโบราณที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ที่ถือเป็น “นามบัตรทอง” การอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันล้ำค่านั้นเป็นความรับผิดชอบของเมืองหลวง ต้องดำเนินการสืบสานในบริบททางประวัติศาสตร์ด้วยจิตวิญญาณที่มีความรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์และประชาชน

“ต้องอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองเสมือนหวงแหนชีวิตของตนเอง” สีจิ้นผิงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“หูท่งและบ้านซื่อเหอย่วนเป็นตัวแทนของที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมทางภาคเหนือ ทั้งยังเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมย่านชุมชนในเมือง จึงมีคุณค่าสำคัญแก่การอนุรักษ์ หูท่งในปักกิ่งเกิดขึ้นพร้อมกับการก่อสร้างเมืองหลวงของราชวงศ์หยวน จากถนนหนทางถึงตรอกซอกซอย พวกมันถูกวางแผนและสร้างขึ้นทั้งในแนวตั้งและแนวนอนแบบกระดานหมากรุก ก่อรูปขึ้นเป็นสร้างโครงกระดูกและเส้นเลือดของเมืองเก่า” จาง เย่ว์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการออกแบบสถาปัตยกรรมโบราณแห่งกรุงปักกิ่งกล่าว

มาตรการต่างๆ ในการอนุรักษ์ภูมิทัศน์ของหูท่งและภาพลักษณ์ของลานบ้านซื่อเหอย่วนได้รับการปฏิบัติตามในเมืองหลวงโบราณอย่างมีระเบียบ ตัวอย่างเช่น ได้มีการออก "การวางผังเมืองโดยรวมแห่งกรุงปักกิ่ง (ปี 2016-2035)" ซึ่งได้กำหนดอย่างชัดเจนว่า ห้ามการรื้อถอนในย่านเมืองเก่าอีก พยายามคุ้มครองสิ่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ให้มากที่สุดผ่านการย้ายผู้อยู่อาศัยออกไปจากพื้นที่ การซ่อมแซมและการก่อสร้างเชิงฟื้นฟู รวมถึงการประกาศใช้ “กฎระเบียบว่าด้วยการอนุรักษ์เมืองประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงแห่งกรุงปักกิ่ง” ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใหม่ เพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นจริงของมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ความสมบูรณ์ในบริบททางประวัติศาสตร์ ความต่อเนื่องของชีวิตทางสังคม และความหลากหลายทางด้านสมรรถภาพของเมือง ฯลฯ

"เพื่อรักษากลิ่นอายของบ้านเก่า ส่วนประกอบเก่าในสิ่งปลูกสร้างมากมายไม่ถูกทดแทนแบบง่ายๆอีกต่อไป แต่จะดำเนินการค้นหาวัสดุดั้งเดิมโดยเฉพาะ และทำการซ่อมแซมด้วยเทคนิคดั้งเดิมตามเอกลักษณ์ของหูท่ง" เจิ้งเทียนเซิน วิศวกรจากบริษัทสถาบันวิจัยการออกแบบสถาปัตยกรรมจำกัดแห่งกรุงปักกิ่ง ซึ่งรับหน้าที่กำกับดูแลโครงการดัดแปลงหูท่ง“อี่ว์เอ๋อร์”ในภาคสนามได้เล่าถึงความประทับใจอันลึกซึ้งว่า "ในอดีตผมมักจะซ่อมแซมสิ่งก่อสร้าง แต่คราวนี้ผมรู้สึกว่ากำลังซ่อมแซมเมือง ซ่อมแซมฐานอารยธรรมของเธอ และปลอบโยนจิตวิญญาณของเมือง "

ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูรูปลักษณ์และโครงสร้างแบบดั้งเดิมของสิ่งปลูกสร้างภายในหูท่งเก่าแก่ในที่ต่างๆ ความทรงจำเกี่ยวกับเมืองโบราณที่ถูกเก็บเงียบมาเป็นเวลายาวนานได้ตื่นขึ้นอย่างช้าๆ  เสน่ห์แห่ง"บ้านและต้นไม้อันเงียบสงบในตรอกซอยเก่า"ได้กลับมาอีกครั้ง

ภายในบ้านเลขที่ 30 ในอี่ว์เอ๋อร์หูท่ง ฉงเป่าไฉ ผู้อยู่อาศัยในย่านนี้มายาวนานมักจะนั่งอยู่ใต้ต้นวอลนัทในลานเล็กๆ และนึกถึงเถาวัลย์ในฤดูใบไม้ร่วง หิมะในฤดูหนาว ฝนในฤดูใบไม้ผลิ และดอกบัวในฤดูร้อนภายในลานเล็กๆของเขา   ช่างเป็นช่วงเวลาอันดีงามตลอดทั้งสี่ฤดูกาลจริงๆ

กว่า 30 ปีที่แล้ว เมื่อครอบครัวฉงเป่าไฉ 3 คนย้ายไปอยู่ในบ้านหมายเลข 30 นั้น ภายในบ้านที่มีเนื้อที่ประมาณ 300 ตารางเมตรแห่งนี้มีผู้อาศัยมากถึง 14 ครัวเรือน ปัญหาการก่อสร้างโดยมิได้รับอนุมัติอยู่ในขั้นร้ายแรงมาก ภายในหูท่งที่มีความหนาแน่นดั่งใยแมงมุมแออัดเบียดเสียดไปด้วยบ้านเรือนอย่างไร้ระเบียบ

“หลังผ่านการซ่อมแซมและปรับปรุงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลิ่นอายแห่งความอบอุ่นในบ้านซื่อเหอย่วนของเราได้กลับมาแล้ว กระท่อมที่แอบสร้างขึ้นหายไปหมด ลานบ้านได้กลายเป็นลานสไตล์จีนขนาดใหญ่ที่ผมอิจฉามาตลอด แสงแดดสามารถส่องเข้าไปในห้อง ทำให้จิตใจสว่างสดใส” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายชราวัย 71 ปีผู้นี้พร้อมไปกับริ้วรอยที่คลายตัวลง

 คำบรรยายภาพ : ชาวเมืองเดินผ่านหูท่งในชุมชน “เฉาฉ่างซื่อเถียว” ทางทิศตะวันออกของย่านเฉียนเหมินกรุงปักกิ่ง(ภาพถ่ายโดยสำนักข่าวซินหัวเมื่อวันที่ 6 เมษายน ปี 2019)

เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019  สีจิ้นผิงได้เดินทางไปยังหูท่งในปักกิ่งอีกครั้ง ณ หูท่งในชุมชน “เฉาฉ่างซื่อเถียว” ทางทิศตะวันออกของย่านเฉียนเหมิน สีจิ้นผิงกล่าวว่า "เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมดั้งเดิมของปักกิ่งอยู่ที่ไหน? คำตอบก็คือหูท่งนั่นเอง หากหูท่งในปักกิ่งหายไปและกลายเป็นอาคารสูงไปหมด เรายังจะจดจำความทรงจำในบ้านเกิดได้อย่างไร? ขณะที่เราสร้างสรรค์ความทันสมัยนั้น ไม่เพียงแต่ต้องรักษามรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ไว้เท่านั้น หากยังต้องให้ชาวชุมชนในหูท่งมีชีวิตที่ทันสมัยอีกด้วย ต้องหลอมรวมทั้งสองส่วนนี้เข้าด้วยกันให้ดี”

ทุกวันนี้ หูท่งเก่าแก่จำนวนไม่น้อยในกรุงปักกิ่งได้เปลี่ยนโฉมหน้าไปแล้ว ตามสถิติตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา สภาพแวดล้อมตามตรอกซอกซอยที่ตั้งอยู่ด้านหลังของถนนใหญ่มากกว่า 3,900 แห่งในกรุงปักกิ่งได้รับการปรับปรุงดีขึ้นโดยรวม หากปีนขึ้นไปบนภูเขาจิงซานในปักกิ่งและมองลงไปยังทั้งเมือง จะเห็นภาพหูท่งมากมายที่ตัดสลับกันทั้งแนวนอนและแนวตั้ง การอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนของเสน่ห์แบบโบราณและรูปลักษณ์ใหม่ ตลอดจนการกระจัดกระจายอย่างหนาแน่นของปัจจัยทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมต่างๆ เช่น ที่พำนักเก่าของบุคคลชื่อดัง โรงละคร ร้านค้าแบรนด์เก่าแก่นับร้อยปี และพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เป็นต้น ช่างเป็นฉากทัศน์ที่วัฒนธรรมของเมืองโบราณกำลังลื่นไหลไปมาอย่างน่าประทับใจยิ่งนัก

ต้นหญ้าในฤดูใบไม้ผลิเติบโตขึ้น ใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงร่วงหล่น กลิ่นอายทางวัฒนธรรมอันเข้มข้นของหูท่งและบ้านซื่อเหอย่วนได้รับการสั่งสมตกผลึกและสืบสานท่ามกลางกาลเวลา “ในฐานะส่วนหนึ่งของหูท่ง ผมกับลูกๆจะพร้อมใจกันอนุรักษ์และสืบทอดบรรยากาศแห่งความอบอุ่นและวัฒนธรรมของที่นี่เฉกเช่นเดียวกับการถนอมชีวิตของตนเอง” ฉงเป่าไฉกล่าวทิ้งท้าย


YIM/LU

  • เสียงข่าวประจำวัน (19-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (19-04-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (19-04-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (18-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (18-04-2567)