บทวิเคราะห์ : แนวทางถูกต้องของความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯแห่งยุคใหม่

2022-10-04 08:39:29 | CMG
Share with:

หลายปีมานี้  ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ตกอยู่ในหุบเขาลึกนับตั้งแต่สองประเทศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา  สภาพความเป็นจริงที่ทั้งสองประเทศพึ่งพาอาศัยกันและกันนั้นถูกมองข้าม  ประวัติศาสตร์ความร่วมมือเพื่อชัยชนะร่วมกันถูกบิดเบือน  สิ่งที่เรียกว่า “การแข่งขันทางยุทธศาสตร์” กำลังถูกนิยามด้วยรูปแบบอันตราย  และกระทบความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐ  อีกทั้งนำมาซึ่งความไม่แน่นอนอย่างรุนแรงต่อประชาชนทั้งสองประเทศและอนาคตของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก  เป็นที่ทราบกันดีว่า  ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ไม่จำกัดอยู่ที่ความสัมพันธ์แบบทวิภาคี  กลับจะส่งผลกระทบต่อทั่วโลก  ประชาคมโลกหวังว่า  จีน-สหรัฐฯ จะแสดงบทบาทการชี้นำ  และจะแบกรับภาระหน้าที่ของมหาประเทศ  ส่งเสริมให้ความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างจีน-สหรัฐฯมั่นคงยิ่งขึ้น  เพื่อผลักดันความร่วมมือของโลก

เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา  นายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้แถลงในหัวข้อ “วิถีทางที่ถูกต้องในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯแห่งยุคใหม่” ที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมเอเชียซึ่งตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ค สหรัฐฯเพื่ออรรถาธิบายนโยบายและหลักการทางยุทธศาสตร์ของจีนต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีน - สหรัฐฯ

ก่อนอื่น นายหวัง อี้ ชี้ให้เห็นว่า  สหรัฐฯ มีความเข้าใจผิดต่อจีน  โลก  และสหรัฐฯเอง  สหรัฐฯจัดจีนเป็นคู่ต่อสู้หลักและเป็นการท้าทายที่รุนแรงที่สุดในระยะยาว  โดยยับยั้งจีนในทุกมิติ  มุ่งที่จะปิดล้อมจีนผ่านการสร้าง “บรรยากาศทางยุทธศาสตร์รอบข้าง”   อีกทั้งบังคับให้ประเทศรอบข้างของจีนเลือกข้าง นอกจากนี้  เพื่อบีบจีน  สหรัฐฯยังจัดตั้ง “วงเล็ก” ต่าง ๆ ด้วย หลายปีมานี้ สหรัฐฯก่อสงครามทางการค้าต่อจีนอย่างต่อเนื่อง  ถึงแม้ว่าองค์การการค้าโลกวินิจฉัยว่า  การกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับทางสากลก็ตาม  แต่สหรัฐฯยังคงขัดขืนเก็บภาษีศุลกากรในอัตราสูงต่อสินค้าจีนที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ  ขณะเดียวกัน  สหรัฐฯยังเพิ่มรายชื่อบริษัทจีนในบัญชีคว่ำบาตรของตนให้มากยิ่งขึ้น  โดยมีบริษัทและบุคคลจีนกว่า 1,000 รายถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร

นายหวัง อี้ ตั้งคำถามว่าภายใต้สภาพดังกล่าว  จะคุ้มครองเสถียรภาพของห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทานระหว่างจีน-สหรัฐฯ  ตลอดจนของโลกได้อย่างไร

นายหวัง อี้ ยังระบุว่า  สหรัฐฯท้าทายสิทธิผลประโยชน์แก่นแท้และสิทธิผลประโยชน์การพัฒนาของจีนอย่างไม่จบสิ้น หากว่าสหรัฐฯ เล่นเกมผลรวมเป็นศูนย์ในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯต่อไป  โดยใช้ “ความถูกต้องทางการเมือง” ในการชี้นำนโยบายต่อจีนอย่างผิดพลาด ซึ่งไม่เพียงแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของสหรัฐฯเองได้  หากยังจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯไปสู่จุดหมายปลายทางที่เป็นปรปักษ์กัน

ปัจจุบัน  ปัญหาไต้หวันเป็นความเสี่ยงที่อันตรายที่สุดต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ  การแก้ไขปัญหาไต้หวันไม่ถูกต้องมีความเป็นไปได้ที่จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ แบบพลิกคว่ำ

นายหวัง อี้ ได้ระบุในถ้อยแถลงว่า  รัฐบาลสหรัฐฯไม่นำพาการคัดค้านอย่างแข็งกร้าวของจีน  ดื้อดันอนุมัติให้ประธานสภาล่างสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนไต้หวันอีกภายในเวลา 25 ปีให้หลัง  การไปมาหาสู่กันอย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐฯ-ไต้หวันมีแนวโน้มจะยกระดับสูงขึ้น  นอกจากนี้  สหรัฐฯยังจำหน่ายอาวุธให้แก่ไต้หวันอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งรวมถึงอาวุธเชิงบุกโจมตีจำนวนมหาศาล  เมื่อเร็วๆนี้  รัฐบาลสหรัฐฯกำลังพิจารณาสิ่งที่เรียกว่า “กฎหมายว่าด้วยนโยบายไต้หวัน”  มุ่งที่จะสั่นคลอนแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีน-สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ  เช่นเดียวกับสหรัฐฯที่ไม่ยอมจะแบ่งแยกรัฐฮาวายออกไป  มณฑลไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน  จีนจึงมีสิทธิคุ้มครองเอกภาพแห่งชาติ  รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนในฐานะรัฐบาลหนึ่งเดียวที่ชอบด้วยกฎหมายของจีน  จึงไม่อนุญาตทางการไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศใด ๆ ในฐานะประเทศที่มีอธิปไตย  ทุกประเทศที่ยอมรับหลักการจีนเดียว  ก็ไม่ควรมีการติดต่ออย่างเป็นทางการกับไต้หวัน

นายหวัง อี้ ยังระบุด้วยว่า  ในบรรดาประเทศใหญ่ของโลก  จีนเป็นประเทศเดียวที่ยังไม่ได้บรรลุความเป็นเอกภาพอย่างบูรณาการ ความเป็นเอกภาพแห่งชาติเป็นความปรารถนาร่วมกันของพี่น้องประชาชาติจีนทั้งปวง  และเป็นบทบัญญัติที่ชัดเจนในรัฐธรรมนูญของจีน  “การบรรลุความเป็นเอกภาพอย่างสันติ  หนึ่งประเทศสองระบบ” เป็นนโยบายพื้นฐานที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชาติจีนซึ่งรวมถึงพี่น้องไต้หวันด้วย  นโยบายนี้เป็นสูตรที่มุ่งสู่ความเป็นจริง  ครอบคลุม  สันติ  ประชาธิปไตย  เมตตา  และเพื่อได้ชัยชนะร่วมกันระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับมณฑลไต้หวันซึ่งมีระบบการปกครองที่แตกต่างกัน  ปัญหาไต้หวันเกิดขึ้นเนื่องจากความอ่อนแอและความวุ่นวายของประชาชาติจีน ซึ่งย่อมจะได้ข้อยุติพร้อมกับการสร้างความเจริญรุ่งเรืองใหม่ของประชาชาติจีน

นายหวัง อี้ ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า  ตั้งแต่วันแรกที่จีน-สหรัฐฯ เริ่มมีการติดต่อกัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็ตระหนักว่า  เรากำลังติดต่อกับประเทศหนึ่งที่มีความแตกต่างกันมาก  แต่ความแตกต่างกันเหล่านี้ไม่ได้ขัดขวางทั้งสองฝ่ายสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต  ไม่ได้ขัดขวางความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายให้ลงลึกเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน  และไม่ได้ขัดขวางทั้งสองฝ่ายสร้างคุณูปการร่วมกันเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลก  วิถีทางการอยู่ร่วมกันที่ถูกต้องระหว่างจีน-สหรัฐฯ คือ  เคารพซึ่งกันและกัน  อยู่ร่วมกันอย่างสันติ  และร่วมมือกันเพื่อชัยชนะร่วมกัน  หลักการ 3 ประการนี้เป็นบทสรุปที่สำคัญหลังจากได้พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ตลอดกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา  และก็เป็นแนวทางที่ถูกต้องระหว่างการไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศใหญ่แห่งยุคปัจจุบันด้วย

นายหวัง อี้ ระบุด้วยว่า  จีนเลือกสันติภาพ  ยึดมั่นการพัฒนาอย่างสันติ  ความปรารถนาพื้นฐานของจีนต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ คือ  การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ  มีคนจำนวนหนึ่งเมื่อได้พบเห็นว่า  จีนพัฒนาก้าวหน้าไปทุกวัน  ก็จัดจีนเป็นศัตรูในจินตนาการ  ก่อรูปสิ่งที่เรียกว่า “ความคุกคาม”  ซึ่งเป็นความวิตกกังวลมากเกินควร  ไม่มีความจำเป็นโดยสิ้นเชิง  ชาวจีนไม่มียีนที่จะขยายกำลังบีบบังคับ  หรือครอบงํา  ตรงกันข้าม  ชาวจีนเชื่อว่า  ความนิยมสงครามย่อมจะประสบความล้มตาย  และการวางตนสูงส่งเหนือผู้อื่นย่อมจะเสื่อมโทรมลง

นายหวัง อี้ ยอมรับว่า  จีนและสหรัฐฯมีการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการค้าดำรงอยู่  แต่จีนไม่กลัวการแข่งขัน  จีนไม่เห็นด้วยกับการนิยามความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯอย่างง่ายๆว่า  เป็นความสัมพันธ์แห่งการแข่งขัน เพราะว่า  การแข่งขันไม่ใช่ส่วนทั้งหมดและกระแสหลักของความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ  นายหวัง อี้ระบุว่าการแข่งขันต้องมีเส้นขีด  ต้องยุติธรรม  และต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่ยอมรับโดยทั่วไป  ไม่ใช่คิดแต่จะบรรเทาศักยภาพการพัฒนาของประเทศอื่น  ริดรอนสิทธิผลประโชน์ที่ชอบธรรมของฝ่ายตรงกันข้าม  ต้องดำเนินการแข่งขันที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย  ไม่ดำเนินการแข่งขันลักษณะเลวร้าย  การแข่งขันต้องเป็นไปอย่างไล่ตามกัน  ไม่ใช่เพื่อความเป็นความตาย

ต่ออนาคต  นายหวัง อี้ระบุว่า  ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯสามารถพัฒนาไปด้วยดีได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองประเทศสามารถปฏิบัติต่อความแตกต่างกันอย่างถูกต้องได้หรือไม่  รวมทั้งทั้งสองฝ่ายจะยึดถือความแตกต่างเป็นพื้นฐานในการสร้างผลประโยชน์ของประเทศตนและผลประโยชน์ร่วมกันหรือเปล่า  นายหวัง อี้ กล่าวเน้นว่า  ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ จะเป็นไปอย่างไรก็ตาม  จีนในฐานะประเทศใหญ่ที่มีความรับผิดชอบ จะรับมือการท้าทายต่าง ๆ ในโลกอย่างแข็งขันและเสมอต้นเสมอปลาย  แบกรับความรับผิดชอบของตน  และจะสร้างคุณูปการต่อโลกต่อไป


 (YIM/ZHOU)

  • เสียงข่าวประจำวัน (16-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (15-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (15-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (15-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)