เดือนพฤษภาคม ปี 2020 ตัวแทนของชนเผ่าเหมาหนานในอำเภอปกครองตนเองชนเผ่าเหมาหนานหวนเจียง เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี ได้เขียนจดหมายถึงนายสีจิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีน เพื่อรายงานความรู้สึกปลื้มปิติของชาวชนเผ่าเหมาหนานในท้องถิ่นภายหลังได้บรรลุการหลุดพ้นจากความยากจน ต่อมาไม่นานสีจิ้นผิงได้ให้คำแนะนำที่สำคัญเกี่ยวกับการบรรลุการขจัดความยากจนของชนเผ่าเหมาหนานทั้งเผ่า เมื่อเร็วๆนี้ นักข่าวได้เดินทางไปขอสัมภาษณ์ถานเหม่ยชุน หนึ่งในตัวแทนชาวบ้านที่เคยเขียนจดหมายถึงเลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิง ต่อไปนี้คือคำบอกเล่าและเสียงจากใจจริงของเธอ
เดือนพฤษภาคมเมื่อสองปีที่แล้ว พวกเราชาวบ้านชนเผ่าเหมาหนานไม่กี่คนได้ร่วมกันเขียนจดหมายที่สำหรับฉันแล้วถือว่ายาวที่สุดและส่งไปไกลที่สุดในตลอดชีวิตที่ผ่านมา โดยมีผู้รับจดหมายคือเลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิง
พวกเราอยากบอกเล่าโดยด่วนถึงความรู้สึกปลื้มปิติและขอบคุณจากหัวใจต่อท่านเลขาธิการใหญ่ว่า ด้วยความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากพรรคและรัฐบาล ชนเผ่าที่มีจำนวนประชากรค่อนข้างน้อยของเราได้หลุดพ้นความยากจนทั้งเผ่าแล้ว!
“ผมดีใจมากที่ชนเผ่าเหมาหนานได้บรรลุการหลุดพ้นจากความยากจนทั้งเผ่าแล้ว และชีวิตของชาวบ้านทั้งหลายได้รับการปรับปรุงดีขึ้นอย่างเด่นชัด” - ไม่นานหลังจากที่จดหมายถูกส่งออกไป ท่านเลขาธิการใหญ่ก็ได้ให้คำแนะนำที่สำคัญ
คำบรรยายภาพ: ภาพลักษณ์หมู่บ้านในอำเภอปกครองตนเองชนเผ่าเหมาหนานหวนเจียง เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสี (แหล่งรูปภาพ: CMG)
ได้ยินข่าวนี้แล้วฉันรู้สึกชื่นใจจริงๆ พวกเราได้รวมตัวกันใต้ต้นไทรใหญ่ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านและพร้อมใจกันร้องเพลง "สรรเสริญบุญคุณพรรคสิบประการ" ด้วยภาษาชนเผ่าเหมาหนานว่า "น้ำใสสะอาดยิ่งขึ้นเมื่อมีปลาคาร์ปอยู่คู่กับน้ำ ดวงจันทร์สว่างยิ่งขึ้นเมื่อมีดวงดาวอยู่เป็นเพื่อน พวกเรามีชีวิตที่ดีแล้ว ไม่มีวันลืมบุญคุณของพรรค---"
จงอย่าได้ลืมผู้ขุดบ่อน้ำเมื่อดื่มน้ำ เดิมครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวที่ยากจน ด้วยการสนับสนุนจากนโยบายบรรเทาความยากจนและความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บรรเทาความยากจน ฉันจึงได้บรรลุการหลุดพ้นความยากจนได้เมื่อปี 2016 ผ่านการพัฒนาการปลูกส้ม หลังจากได้ลิ้มรสความหอมหวานแห่งความมั่งคั่งที่ได้มาจากการพัฒนาธุรกิจ ฉันได้นำชาวบ้าน 22 ครัวเรือนซึ่งรวมถึง 14 ครัวเรือนที่ยากจนด้วยก่อตั้งสหกรณ์ กลายเป็นผู้นำในการสร้างความมั่งคั่งของหมู่บ้านเรา เมื่อปลายปี 2019 ครอบครัวที่ยากจนทั้ง 14 ครัวเรือนก็ได้หลุดพ้นจากความยากจนทั้งหมด ชีวิตเปลี่ยนไปมากเช่นนี้เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงแม้แต่ในฝันจริงๆ
ท่านเลขาธิการใหญ่เน้นย้ำในคำแนะนำว่า ท่านหวังให้บรรดาชาวบ้านจะใช้การขจัดความยากจนด้วยความสำเร็จเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ในการก้าวไปสู่ชีวิตใหม่ที่ดีงามยิ่งขึ้น ใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละ ฟันฝ่าต่อสู้ต่อไป เพื่อทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราจดจำคำกำชับของท่านเลขาธิการใหญ่ บากบั่นพากเพียรด้วยความทรหดอดทน จึงได้นำมาซึ่งความก้าวหน้าใหม่ในทุกด้าน
ความเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือ การปลูกส้มทำให้กระเป๋าเงินของทุกคนพองโตขึ้น เพื่อปรับปรุงคุณภาพของส้ม ทางอำเภอได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการเกษตรมายังท้องไร่ท้องนาอย่างสม่ำเสมอเพื่อสอนเทคนิคการปลูกส้มแก่เรา ทั้งยังพาเราไปเรียนรู้ในต่างถิ่นและติดต่อกับพ่อค้าแม่ขายเพื่อขยายช่องทางการขายด้วย เมื่อได้เรียนรู้เทคนิคและเปิดโลกทัศน์มากขึ้น แนวคิดการบริหารจัดการธุรกิจก็ได้รับการพัฒนาเช่นกัน
ในระหว่างการพัฒนาธุรกิจเราก็เคยประสบปัญหา ตัวอย่างเช่น อำเภอปกครองตนเองชนเผ่าเหมาหนานของเรามีภูมิประเทศในลักษณะ"แปดภูเขาหนึ่งน้ำหนึ่งที่นา" จึงค่อนข้างยากที่จะขยายการเพาะปลูกส้มหลังจากได้พัฒนาถึงระดับหนึ่งแล้ว อีกตัวอย่างหนึ่งคือราคาของส้มผันผวนมาก ทำให้ชาวบ้านกังวลใจ
แต่คำกำชับจากท่านเลขาธิการใหญ่สีจิ้นผิงทำให้เรามีความกล้าหาญที่จะเอาชนะความยากลำบาก ฉันได้วิเคราะห์อย่างรอบคอบถึงสาเหตุที่ทำให้ขายส้มยาก ปรากฏว่า ราคาขายไม่ปรับขึ้นได้นั้นมีสาเหตุหลักคือ มีส้มปริมาณมากออกสู่ตลาดในช่วงเวลานั้นทุกปี เราไม่มีความได้เปรียบในการแข่งขัน ฉันจึงคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่จะปล่อยให้ส้มออกสู่ตลาดเร็วขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่มีส้มออกสู่ตลาดมาก ฉันจึงเดินทางไปขอเรียนรู้ที่เขตสาธิตหลักของอุตสาหกรรมส้มในอำเภอหลายครั้ง และกลับมาทดลองทำหลังจากได้รับ "เคล็ดลับ"
ฉันทำการทดลองก่อนในสวนส้มที่มีเนื้อที่ 120 โหม่ว(2.4โหม่วเท่ากับ 1 ไร่)ของครอบครัวตัวเอง ในวันขึ้นปีใหม่ปีนี้ ส้มของเราได้ออกสู่ตลาดเร็วขึ้นกว่าเดิมครึ่งเดือน แม้ว่าราคาจะสูงกว่าปีที่แล้ว แต่ถูกพ่อค้าแย่งกันซื้อจนหมดเกลี้ยงในชั่วพริบตาเดียว เมื่อเห็นส้มแดงสดถูกนำขึ้นไปบนรถบรรทุกเพื่อขนส่งไปทางภาคเหนือ หัวใจของฉันช่างอิ่มเอิบ ทุกวันนี้วิธีการนี้ได้ขยายไปสู่ทั้งสหกรณ์แล้ว พวกเราจับกลุ่มพัฒนาร่วมกัน
ภูมิประเทศแบบคาร์สต์ในอำเภอหวนเจียงเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ มีคนจำนวนมากบอกว่าแหล่งที่อยู่ของเราแห่งนี้สวยงามทั้งภูเขาและลำน้ำ เป็น "สถานที่พำนักของเทวดา" แต่เมื่อก่อนเป็นพื้นที่ยากจนข้นแค้น ปัจจุบันนี้ธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ต่างๆ เช่น การปลูกส้มและชาน้ำมัน การเลี้ยงหนอนไหมและหมูเล็กเนื้อหอม(fragrance pig) เป็นต้น กําลังได้รับการพัฒนาทุกหนทุกแห่งในอำเภอของเราแล้ว
ฉันอยากจะบอกกับท่านเลขาธิการใหญ่ว่า ชีวิตของพวกเราจะหอมหวานและเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ เสมือนส้มแดงสดอย่างแน่นอน
YIM/LU