การประชุมผู้แทนระดับชาติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 (สมัชชา 20) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2565 นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวรายงานใน “สมัชชา 20”โดยตอนหนึ่งกล่าวถึง ความสำเร็จที่ทำให้ชาวจีนหลุดพ้นความยากจน ว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ 1 ใน 3 เหตุการณ์ ที่มีความหมายอย่างยิ่งในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา
ความสำเร็จนี้ไม่ได้มีความหมายสำหรับชาวจีนเท่านั้น แต่ยังมีความหมายสำหรับคนทั้งโลก ที่จะได้เรียนรู้สิ่งที่จีนทำสำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
นายสี จิ้นผิง ในฐานะประธานาธิบดี สาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้นำประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ทำอย่างไรที่ทำให้ประชาชนจีนกว่า 100 ล้านคน หลุดพ้นความยากจน ในช่วงเวลา 8 ปี ระหว่างปีค.ศ. 2012 - 2020
หลังจากที่นายสี จิ้นผิง รับตำแหน่งประธานาธิบดีจีน ในปีค.ศ.2013 เขามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า ภายในปีค.ศ.2020 จะต้องขจัดความยากจนให้หมดประเทศ ในตอนนั้นมีชาวจีนยากจนประมาณ 100 ล้านคน มีหมู่บ้านยากจน 128,000 แห่ง
นายสี จิ้นผิง ผู้เคยผ่านความทุกข์ยาก เคยใช้ชีวิตอย่างลำบากในพื้นที่ห่างไกล รู้ซึ้งว่าภารกิจนี้รอไม่ได้อีกต่อไป เขาใช้เวลาในช่วงแรกลงพื้นที่ไปคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลหลายพื้นที่ จนเข้าใจสภาพการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้นปีค.ศ. 2013 นายสี จิ้นผิง เสนอแนวทางขจัดความยากจนด้วยรูปแบบที่เรียกว่า “ความช่วยเหลือแบบแม่นยำ” เขาอธิบายรูปแบบความช่วยเหลือนี้ว่า “ไม่ต้องมีคำขวัญ ไม่ต้องตั้งเป้าหมายสูงส่ง การขจัดความยากจนคือการทำตามสภาพความเป็นจริงของแต่ละพื้นที่ ให้คำชี้แนะที่เหมาะสม เน้นการช่วยเหลืออย่างตรงจุด”
แนวคิดนี้ถูกเปลี่ยนเป็นการกระทำแบบเร่งด่วน มีการรวบรวมข้อมูลและขึ้นทะเบียนประชากรยากจนทั้งประเทศ โดยรัฐบาลจีนใช้งบประมาณมหาศาล นำความเจริญไปสู่พื้นที่ห่างไกล เช่น การพัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างงานให้ชาวบ้าน ส่งเสริมการศึกษา พัฒนาทักษะต่างๆ ให้ชาวบ้านมีความรู้เพื่อประกอบอาชีพ มีการใช้เทคโนโลยีหลากหลาย มาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ทำให้เกิด “นวัตกรรมขจัดความยากจน” ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ ทำให้ชาวจีนที่เคยอยู่อย่างแร้นแค้นมีชีวิตที่ดีขึ้น
และในที่สุดในปี ค.ศ. 2020 โครงการ“ขจัดความยากจน” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็สำเร็จตามเป้าหมายที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนวางไว้ จนได้รับการยกย่องว่าจากนานาประเทศว่า เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ในประวัติของมวลมนุษยชาติ
วิธีการขจัดความยากจนที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำสำเร็จ ยังเป็นแรงบันดาลใจและเป็นตัวอย่างให้ประเทศอื่นนำไปใช้แก้ปัญหาความยากจน ซึ่งประเทศไทยโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้นำรูปแบบการแก้ไขปัญหาความยากจนของจีน มาเป็นตัวอย่างสร้าง“โมเดลแก้จน” สำหรับประเทศไทยแล้วเช่นกัน
แม้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะสร้างประวัติศาสตร์ บรรลุเป้าหมายทำให้ชาวจีนหลุดพ้นความยากจนแล้ว แต่ภารกิจเพื่อชาวจีนยังไม่จบ พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังมีเป้าหมายต่อไป ในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวจีนให้ดียิ่งขึ้น มีความสุขที่ยั่งยืน
ดังที่นายสี จิ้นผิง กล่าวในการประชุมตอนหนึ่งว่า “เราจะยืนหยัดทุ่มเทสุดกำลังเพื่อเข้าถึงประชาชนฐานราก ทำให้ประชาชนมีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้น มุ่งมั่นที่จะแก้ไขความทุกข์ยากของประชาชน ปรับปรุงยกระดับการบริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน สร้างความเท่าเทียม และส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย