“แนวคิดใหม่ในสำนวนเก่า” (ซีซั่น 3) ย้อนรากเหง้าวัฒนธรรม วิเคราะห์ยุทธศาสตร์จีน สารคดีพิเศษ “สมัชชา 20” ตอนที่ 2

2022-10-20 17:07:49 | CMG
Share with:

กฎการบริหารประเทศไม่เปลี่ยนแปลง ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก

กฎการบริหารประเทศไม่เปลี่ยนแปลง ยึดประโยชน์แก่ประชาชนเป็นหลัก  ยืนหยัดการพัฒนาเพื่อรับรองและปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งเสริมให้ร่วมต่อสู้เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีงาม  สร้างชีวิตที่ดีงามของประชาชนให้เป็นที่ประจักษ์ ตามความปรารถนา

คำกล่าวของสี จิ้นผิง

ในที่ประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 20

ความหมายของ “กฎการบริหารประเทศไม่เปลี่ยนแปลง ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก” คือ การปกครองบริหารประเทศมีกฎเกณฑ์ที่ไม่แปรปรวน สิ่งสำคัญที่สุดคือทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ สำนวนโบราณเกี่ยวกับแนวคิดบริหารประเทศประโยคนี้สืบทอดกันในประวัติศาสตร์ชาติจีนนานกว่า 2,100 ปี ยังคงเป็นความต้องการเชิงแก่นสารของพรรครัฐบาลของจีนที่บริหารพรรคและการเมืองเพื่อประชาชน


วันที่ 16 ตุลาคม 2565 การประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั่วประเทศครั้งที่ 20 ได้เปิดฉากขึ้นที่กรุงปักกิ่ง นายสี จิ้นผิง ในนามตัวแทนคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ชุดที่ 19 รายงานกิจการงานแก่ผู้แทนพรรคกว่า 2,200 คน

ในพิธีเปิดประชุมสมัชชา 20 เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม นายสี จิ้นผิง นำเสนอในรายงานกิจการงานว่า “ประเทศชาติเป็นของประชาชน ประชาชนก็คือชาติบ้านเมือง พรรคคอมมิวนิสต์นำประชาชนต่อสู้ สถาปนาประเทศและบริหารบ้านเมือง สิ่งที่ต้องคุ้มครองไว้คือใจของประชาชน”

ครั้นค.ศ.2012 จีนยังมีประชากรยากจนในเขตชนบทราว 100 ล้านคน ในฐานะผู้นำสูงสุดของจีน นาย สี จิ้นผิงเดินทางท่ามกลางความหนาวเหน็บ ไปสำรวจหมู่บ้านลั่วถัววาน ตั้งอยู่ในส่วนลึกของหุบเขา ระหว่างการสำรวจศึกษาครั้งนี้ เขารณรงค์ให้ต่อสู้ความยากลำบาก ขจัดความยากจน

สิ่งที่พูดออกมา ต้องทำให้ได้ผล จีนเดินหน้าเพื่อขจัดความยากจนขนาดใหญ่ที่สุด และเป็นการต่อสู้สำคัญในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ จีนคัดสรรเจ้าหน้าที่ผู้บริหารกว่า 5 แสนคนดำรงตำแหน่งเลขานุการคนที่ 1 ในกลุ่มหมู่บ้านยากจนทั่วประเทศ พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนลงพื้นที่หมู่บ้านยากจน จนสะสางปัญหาความยากจนที่ยืดเยื้อยาวนานกว่าพันปี ได้เสร็จสมบูรณ์ ในค.ศ.2020 จีนบรรลุเป้าหมายการบรรเทาความยากจน ตามที่ระบุไว้ในวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืน ค.ศ.2030 ของสหประชาชาติก่อนกำหนด 10 ปี


“หมู่บ้านหน้าผา” เป็นหมู่บ้านของกลุ่มชาติพันธุ์อี๋ที่ตั้งอยู่ในส่วนลึกของหุบเขาใหญ่ทางภาคกลางและภาคตะวันตกของจีน ในอดีต ชาวเขาที่นี่ต้องอาศัย “บันไดสวรรค์” ที่ทำด้วยหวายกับไม้เดินทางไปโลกภายนอก สงครามการขจัดความยากจนของจีนที่ยึดหลัก “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ช่วยให้ชาวบ้านสร้างบันไดเหล็ก  สู่การสร้างโอกาสเลี้ยงแกะ ปลูกต้นโอลีฟน้ำมัน บุกเบิกการท่องเที่ยว พัฒนาการศึกษา สร้างชุมชนใหม่ในต่างถิ่น ภาพข้างบนเป็น “บันไดสวรรค์ที่ผูกด้วยหวายกับไม้” ภาพข้างล่างเป็นโรงเรียนใหม่ในชุมชนต่างถิ่นที่รองรับกลุ่มชาติพันธุ์จากหมู่บ้านหน้าผา

ให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดี เป้าหมายถาวรที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละ จีนสร้างเครือข่ายประกันคุณภาพชีวิตขนาดใหญ่ที่สุดของโลก  ประชาชนได้รับสิทธิประกันต่าง ๆ เมื่อชราภาพ โรคภัย ตกงาน บาดเจ็บระหว่างการทำงาน  พิการ และความยากจน

ค.ศ.2021 รายได้ที่ใช้จ่ายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวจีนคือ 35,128 หยวน เติบโต 78.0% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลดำเนินนโยบายต่าง ๆ ส่งเสริมภารกิจสงเคราะห์คนชราและอุตสาหกรรมดูแลผู้สูงอายุ ใช้ชีวิตปั้นปลายอย่างมีความสุข อายุถัวเฉลี่ยของชาวจีนก็เพิ่มถึง 78.2 ปี ในค.ศ.2021 ถึงแม้เผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อายุถัวเฉลี่ยของชาวจีนยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ


วันที่ 1 มีนาคม ค.ศ.2020 หู ฮั่นยิง อาม่าวัย 98 ปีผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ได้รับการรักษาให้หายขาดและออกจากโรงพยาบาลหั่วเสินซานในเมืองอู่ฮั่น จนถึงปัจจุบัน สถิติผู้ที่มีอายุสูงสุดที่รักษาโรคโควิด-19 ให้หายขาดในจีนคือคนชราอายุ 108 ปี

นำความสุขให้ประชาชน และประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นปณิธานอันแน่วแน่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในทุกวันนี้ เด็กนักเรียนได้รับการศึกษาอย่างครอบคลุม  เปิดสอนวิชาความรู้อย่างรอบด้าน ชาวบ้านมีรายได้ เมื่อเจ็บป่วยโรคก็ได้รักษาพยาบาล  ได้รับบริการสงเคราะห์ชราภาพ มีบ้านพักอาศัย ผู้ด้อยโอกาสได้รับความช่วยเหลือ รัฐบาลนำประชาชนจีนต่อสู้อย่างไม่ลดละ สร้างสรรค์ระบบการศึกษา ระบบประกันสังคม มีระบบการรักษาพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุด เป็น 1 ในประเทศที่ประชาชนเชื่อมั่นและปลอดภัยที่สุด ความมั่งคั่งร่วมกันและอนาคตอันสดใส กำลังปรากฏขึ้นมา





  • เสียงข่าวประจำวัน (25-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (25-04-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (25-04-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (24-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (24-04-2567)