วันที่ 14 พฤศจิกายน ปธน.สี จิ้นผิง ของจีน พบกันปธน.โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย หลังจากนั้นนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้พูดถึงการพบปะในครั้งนี้กับสื่อมวลชน พร้อมตอบคำถามที่เกี่ยวข้อง โดยกล่าวว่าการพบกันครั้งนี้มีจุดเด่น 4 ข้อ
1. มีความหมายสำคัญ การพบกันในครั้งนี้สร้างสถิติ “ครั้งแรก” 3 อย่างคือ เป็นการพบหน้ากันครั้งแรกระหว่างผู้นำสูงสุดของสองประเทศในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เป็นการพบหน้ากันครั้งแรกของผู้นำทั้งสองหลังจากที่ ปธน.ไบเดนดำรงตำแหน่ง และเป็นพบกันครั้งแรกหลังจากที่ทั้งสองประเทศได้เสร็จสิ้นภารกิจทางการเมืองที่สำคัญภายในประเทศ
2. มีการแลกเปลี่ยนกันอย่างลึกซึ้ง การพบกันมีขึ้นเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง เกินเวลาที่ได้ปรึกษาไว้ล่วงหน้า และใช้ล่ามพูดฉับพลัน โดยมีการแลกเปลี่ยนกันในเชิงสร้างสรรค์และยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ลึกซึ้งและเปิดเผย
3. มีเนื้อหาที่สมบูรณ์ โดยผู้นำทั้งสองได้กล่าวถึงนโยบายสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ นโยบายทั้งในประเทศและต่างประเทศของตน ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ปัญหาไต้หวัน การเจรจา ความร่วมมือในวงการต่างๆ และปัญหาสำคัญในภูมิภาค ซึ่งครอบคลุมจุดสำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ของสองประเทศ และปัญหาที่เร่งด่วนมากที่สุดในปัจจุบันของภูมิภาคและทั่วโลก
4. นัยการนำมาสู่อนาคต การต่างประเทศระหว่างผู้นำสูงสุดเปรียบเสมือนเข็มทิศของความสัมพันธ์จีนและสหรัฐฯ มีบทบาทชี้นำเชิงยุทธศาสตร์ที่ไม่มีอะไรทดแทนได้ในกระบวนการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศ ปัจจุบันความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับสถานการณ์ความยากลำบาก และอยู่ในวาระสำคัญที่ตัดสินทิศทาง ผู้นำทั้งสองจึงกำหนดทิศทางและวางแผนในการพบปะกันในครั้งนี้