คืนวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางการจีนประกาศแถลงการณ์ โดยปรับชื่อโควิด-19 เป็นโรคติดเชื้อจากไวรัสโควิด และประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ปี 2023 เป็นต้นไป จะปฏิบัติตาม “กฎหมายว่าด้วยการป้องกันรักษาโรคติดต่อแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน” จะปรับโรคติดเชื้อจากไวรัสโควิดจากระดับ 1 เป็นระดับ 2 ไม่กักบริเวณรวมผู้ติดเชื้อจากไวรัสโควิด ยกเลิกการตัดสินชี้ขาดผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ยกเลิกการแบ่งเขตความเสี่ยงสูงและต่ำ ยกเลิกมาตรการตรวจโควิดต่อบุคคลและสินค้าที่เข้าสู่เขตแดนประเทศจีน
ทั้งนี้ นับเป็นการปรับปรุงมากยิ่งขึ้นต่อแผนป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคโควิด ซึ่งอยู่บนพื้นฐานที่ประเมินการปรับเปลี่ยนของเชื้อไวรัส ประเมินสถานการณ์การระบาด และประเมินประสบการณ์ป้องกันและควบคุมการระบาด เป็นการกระทำที่ยืนอยู่บนฐานความเป็นจริง ปรับปรุงการป้องกันโรคเชิงวิทยาศาสตร์โดยแม่นยำ ได้ปฏิบัติตามหลักการที่ถือชีวิตและประชาชนสำคัญเหนือสิ่งอื่น
สิ่งที่ต้องกล่าวถึงก็คือ การปรับจากระดับ 1 เป็นระดับ 2 นี้ ไม่ใช่ว่าจะปล่อยตามใจไม่ดูแล หากเป็นการกระทำที่ได้เปลี่ยนจากให้ความสำคัญกับ “การป้องกันการติดเชื้อ” มาเป็นให้ความสำคัญกับ “การรักษาสุขภาพที่แข็งแรง ป้องกันการมีอาการหนัก” ใช้ความพยายามลดผลกระทบของการแพร่ระบาดที่มีต่อการพัฒนาของสังคมและเศรษฐกิจ ในแถลงการณ์ที่เกี่ยวกับนโยบายล่าสุดของทางการจีนได้ประกาศกำหนดมาตรการ 12 ข้อหลังจากได้ปรับเป็นระดับที่ 2 ซึ่งรวมทั้งเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนให้กับคนชราให้สูงยิ่งขึ้น สนองความต้องการของผู้ป่วยในการใช้ยาและตรวจโรค เพิ่มงบในด้านพลังการรักษาพยาบาล เพิ่มการป้องกันและควบคุมการระบาดในชนบท เป็นต้น มาตราการเหล่านี้เจาะจงต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่ปรับจากระดับ 1 เป็นระดับ 2 ที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์และตรงจุด
(Yim/Cui/zheng)