เนื่องจากสงครามกลางเมืองในประเทศจีนและการแทรกแซงจากอิทธิพลต่างประเทศ   ตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 เป็นต้นมา   ไต้หวันถูกแยกออกจากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเวลานานถึง 73 ปีแล้ว    แต่อย่างไรก็ตาม วิวัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า   จีนจะต้องรวมเป็นเอกภาพ และความเป็นเอกภาพของจีนจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน  

นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาผู้แทนทั่วประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 ในปี 2012 เป็นต้นมา  นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เสนอแนวคิดและข้อเสนอทางนโยบายสำคัญในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน    ทำให้เกิดนโยบายโดยรวมของพรรคฯในการแก้ไขปัญหาไต้หวันในยุคใหม่

คีย์เวิร์ดสำคัญดังต่อไปนี้จะให้ความกระจ่างในสาระสำคัญของนโยบายโดยรวมดังกล่าวของพรรคฯ

คีย์เวิร์ดแรก   รวมจีนเป็นเอกภาพและฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน   

ศาสตราจารย์ หวัง อิงจิน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันของมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน กล่าวว่า การดำเนินการรวมจีนเป็นเอกภาพโดยสมบูรณ์และฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีนนั้น  เป็นแกนหลักของนโยบายโดยรวมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการแก้ไขปัญหาไต้หวันในยุคใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย   

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยกล่าวว่า  ปัญหาไต้หวันเกิดขึ้นจากความอ่อนแอและความโกลาหลของประเทศเรา    และปัญหานี้ย่อมจะได้รับการแก้ไขเมื่อการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีนกลายเป็นจริงขึ้น 

คีย์เวิร์ดที่ 2 ยุติการเผชิญหน้าทางการเมืองเพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเคยกล่าวเมื่อปี 2019 ว่า   ความเห็นต่างทางการเมืองที่มีมายาวนานระหว่างทั้งสองฝ่ายเป็นสาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างต่อเนื่อง  แต่เราไม่ควรปล่อยให้ปัญหานี้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น   

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเน้นว่า เรายินดีที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวงกว้างกับทุกพรรคการเมือง องค์กรจัดตั้ง และบุคคลในไต้หวันเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองระหว่างทั้งสองฝ่าย และการส่งเสริมการรวมจีนเข้าเป็นเอกภาพอย่างสันติ  เพื่อสร้างฉันทามติทางสังคมและขับเคลื่อนการเจรจาทางการเมืองให้มีความคืบหน้า     

คีย์เวิร์ดที่ 3 ฝากความหวังไว้กับประชาชนไต้หวัน  ต่อต้าน “ความเป็นเอกราชของไต้หวัน”  

การแบ่งแยกจีนและการให้ไต้หวันเป็นเอกราชนั้น เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงที่สุดต่อการรวมชาติและเป็นอันตรายที่ร้ายแรงต่อการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน   พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ยึดมั่นในหลักการที่ฝากความหวังไว้กับประชาชนไต้หวันมาโดยตลอด 

ศาสตราจารย์ หวัง คุนยี่จากมหาวิทยาลัย Tamkang ของไต้หวันกล่าวว่า จีนแผ่นดินใหญ่ได้รักษาจุดยืนตามหลักฉันทามติปี ค.ศ. 1992 มาโดยตลอด  ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน   แสวงหาประโยชน์แก่พี่น้องร่วมชาติชาวไต้หวัน  และฝากความหวังไว้กับประชาชนไต้หวัน  นี่เป็นความปรารถนาดีและความจริงใจของจีนแผ่นดินใหญ่ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

 คีย์เวิร์ดที่  4 การพัฒนาแบบบูรณาการในตลาดร่วม

นางอู๋ เจียหยิง ประธานหอการค้าไต้หวันในเมืองเซี่ยเหมินเมืองชายฝั่งทะเล ได้ทำธุรกิจในจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเวลาประมาณ 30 ปี เธอกล่าวว่า 

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบการชาวไต้หวันที่จะประสบความสำเร็จในจีนแผ่นดินใหญ่ เนื่องจากการค้าระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันค่อยๆเติบโตขึ้น และกำลังเฟื่องฟูภายใต้นโยบายต่างๆของแผ่นดินใหญ่ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในไต้หวัน

จีนแผ่นดินใหญ่จะยังคงแบ่งปันโอกาสการพัฒนากับพี่น้องร่วมชาติชาวไต้หวันต่อไป ให้พี่น้องร่วมชาติชาวไต้หวัน และวิสาหกิจไต้หวันได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ที่ในแผ่นดินใหญ่  อีกทั้งจะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันด้วย 

คีย์เวิร์ดที่ 5  สืบทอดวัฒนธรรมจีนเพื่อเสริมสร้างความผูกพันที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเน้นย้ำว่า  ความใกล้ชิดระหว่างประชาชนสองฝั่งช่องแคบไต้หวันมีรากฐานมาจากการมีสายเลือด จิตวิญญาณ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมร่วมกัน      ระหว่างญาติพี่น้อง ไม่มีปมแห่งการรับรู้ที่ไม่สามารถแก้ได้  ด้วยความมานะบากบั่น  เราย่อมสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนสองฝั่งช่องแคบไต้หวันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

(yim/cai)