การฉลองตรุษจีนโดยไม่ย้ายถิ่น

2022-02-07 15:43:10 | ไชน่ามีเดียกรุ๊ป
Share with:

ขณะนี้ แม้ว่าวันหยุดงานเวลา 7 วันของตรุษจีนจบแล้ว แต่ตามประเพณีที่สืบทอดกันมา ช่วงนี้ยังเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนอยู่ ซึ่งผู้คนท้องที่ต่างๆหลายพื้นที่ยังไม่กลับไปทำงานอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกัน ชาวจีนอีกจำนวนหนึ่งเลือกไม่กลับบ้านเกิด หรือไม่หยุดงาน ผ่านตรุษจีนในรูปแบบที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ ตรุษจีนเป็นเทศกาลสำคัญที่สุดสำหรับชาวจีน ซึ่งคนส่วนใหญ่ต้องหยุดงาน กลับบ้านอยู่กับครอบครัว และพบปะกับญาติมิตร แต่เนื่องจากช่วงนี้มีนักท่องเที่ยว ผู้เดินทางหรือผู้ชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก ทางการท้องที่ต่างๆจึงรณรงค์ให้ฉลองตรุษจีนโดยไม่ย้ายถิ่น เพื่อป้องกันความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิต-19 โดยเฉพาะที่กรุงปักกิ่ง เพิ่งมีการเปิดงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว จึงต้องเสริมงานป้องกันและควบคุมความเสี่ยงการฟื้นตัวของสถานการณ์โรคให้เข้มงวดยิ่งขึ้น

การฉลองตรุษจีนโดยไม่ย้ายถิ่น

ทางการปักกิ่งเคยประกาศหลายครั้งแล้วว่า ในช่วงตรุษจีนและช่วงจัดงานกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปีนี้ ต้องใช้ความพยายามมากที่สุดเสริมงานป้องกันและควบคุมโรคระบาด เพื่อให้ประชาชนฉลองเทศกาลและงานกีฬาโอลิมปิกอย่างปลอดภัยและสนุกสนาน สำหรับผู้ที่ทำงานแวดวงต่างๆในกรุงปักกิ่ง ต่างมีการสนับสนุนนโยบายป้องกันควบคุมโรคของเทศบาล มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลือกผ่านตรุษจีนโดยไม่กลับบ้านเกิดหรือไม่หยุดงาน

นางสีว์ อ้ายหวา ในวัย 48 ปีทำงานเป็นแม่บ้านดูแลเด็กทารกที่กรุงปักกิ่งมาเป็นเวลา 11 ปีแล้ว มีความตั้งใจและประสบการณ์สูง แต่ละครั้งที่เสร็จสิ้นงานจากครอบครัวหนึ่งแล้ว ไม่กี่วันก็ได้รับการติดต่อให้ไปทำงานในอีกครอบครัวต่อ นับเป็นแม่บ้านดูแลเด็กทารกระดับยอดเยี่ยม และก็มีเงินเดือนค่อนข้างสูง ระยะการให้บริการดูแลทารกตามกำหนดทั่วไปคือ 26 วัน ซึ่งมีค่าบริการกว่า 15,000 หยวน แต่เนื่องจากนางสีว์ทำงานได้ดี ผู้ว่าจ้างจำนวนไม่น้อยจะขยายเวลาจ้างออกไปจนถึง 52 วันขึ้นไป

การฉลองตรุษจีนโดยไม่ย้ายถิ่น

นางสีว์บอกเล่าว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ส่วนใหญ่มีงานยุ่ง ค่อนข้างเหนื่อย แต่ก็มีค่าตอบแทนที่น่าพอใจ ช่วงตรุษจีนปีนี้ นางสีว์ตกลงไม่กลับบ้านเกิดในมณฑลซานตง เธอบอกว่า ขณะนี้รัฐบาลรณรงค์งดเดินทางข้ามเมืองในช่วงตรุษจีน เธอก็ไม่อยากเพิ่มความลำบาก ฉลองตรุษจีนที่ปักกิ่งก็มีความสุข

ที่จริง ตั้งแต่ทำงานแม่บ้านดูแลทารกเป็นต้นมา นางสีว์อยู่กับครอบครัวผู้ว่าจ้างต่างๆในช่วงตรุษจีนหลายครั้งแล้ว สามีกับลูกของเธอต่างทำงานในเขตซินเจียง และมักจะมีงานยุ่งเป็นพิเศษในสิ้นปี ส่วนเวลาทำงานของเธอก็ต้องปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของผู้ว่าจ้าง นางสีว์จึงเลือกนัดพบกับครอบครัวในยามที่ทุกคนมีเวลาว่าง ปีที่แล้ว นางสีว์เพียงกลับบ้านเกิดในเดือนกันยายนครั้งเดียวเพื่อเยี่ยมคุณแม่ในวัย 70 ปี และพบลูกที่นัดกลับบ้านในเวลาเดียวกัน

แม้ทำงานหนัก แต่นางสีว์มีบุคลิกร่าเริง เธอบอกว่า เมื่อเกิดโรคระบาด อย่าออกเดินทางบ่อยครั้งจะดีกว่า จะเป็นผลดีต่อทั้งตัวเองและประเทศชาติ ช่วงตรุษจีนปีนี้อยู่ปักกิ่งอีก ก็มีความสนุกสนาน ครอบครัวผู้ว่าจ้างก็มีประเพณีฉลองตรุษจีนที่คล้ายๆกับบ้านเกิดมณฑลซานตง จะกินบะหมี่ ทำเกี๊ยว สร้างบรรยากาศเทศกาลอย่างเต็มที่

ชาวจีนในภาคเหนือส่วนใหญ่มีประเพณีทำเกี๊ยวในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขณะฉลองตรุษจีนที่บ้านผู้ว่าจ้าง นางสีว์มักจะขอทำเกี๊ยว เธอมีวิธีการทำเกี๊ยวที่ต่างกับคนปักกิ่ง โดยถนัดทำแป้งสีเขียวกับสีเหลืองด้วยการใส่น้ำผักกับฟักทอง ดูสวยและมีสารอาหารอย่างดี จึงมักจะได้รับการชื่นชมจากครอบครัวผู้ว่าจ้าง

การฉลองตรุษจีนโดยไม่ย้ายถิ่น

เนื่องด้วยความขยันและจริงใจ นางสีว์ได้รับการชื่นชอบจากผู้ว่าจ้างทุกครอบครัว ช่วงเทศกาล ผู้ว่าจ้างมักจะให้เงินพิเศษหรือของขวัญแก่นางสีว์ เธอก็รู้สึกได้รับความเคารพอย่างเต็มที่ และมีความชื่นใจอย่างยิ่ง

ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิดเป็นต้นมา ที่กรุงปักกิ่ง แม่บ้านดูแลทารกที่มีทั้งความรับผิดชอบและประสบการณ์สูงอย่างนางสีว์ อ้ายหวา จะได้รับความนิยมอย่างมาก บางทีเพื่อนร่วมงานพบกรณีลาป่วย นางสีว์ยังไปทำงานแทน เธอบอกว่า หลังเลิกงานแล้ว มองเห็นทั้งแม่ลูกมีสุขภาพดี แม้จะเหนื่อยไปหน่อย แต่รู้สึกดีใจและภูมิใจอย่างยิ่ง

ที่กรุงปักกิ่งในปัจจุบัน มีผู้ทำงานด้านบริการดูแลเด็ก หรือผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อย นางสาวสีว์ หลันซิน วัย 24 ปี เป็นชาวเมืองผานจิ่น มณฑลเหลียวหนิง จบสาขาการดูแลบริการคนชรา วิทยาลัยการบริหารจัดการสังคมปักกิ่งเมื่อปี 2019 จากนั้น ก็เข้าทำงานในบ้านพักคนชราแห่งหนึ่งในเขตเฟิงไถ โดยเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพ และได้รับรางวัลจากการประกวดเทคนิคผู้ดูแลคนชราเขตเฟิงไถครั้งแรก

สีว์ หลันซินมีความละเอียดลออในการทำงาน สำหรับผู้สูงอายุ เธอเป็นคนที่ไว้วางใจได้ แต่สำหรับพ่อแม่ เธอยังเป็นเด็กอยู่ เพิ่งทำงาน 2 ปี แต่เนื่องจากผลกระทบสถานการณ์โควิด เธอไม่ได้กลับบ้านเกิดในช่วงตรุษจีนติดต่อกัน 2 ปีแล้ว

สีว์ หลันซินบอกว่า ปี 2020 การทำงานปีแรกก็พบสถานการณ์โควิด-19 แต่คิดว่าทำงานในตรุษจีนก็ดี จะมีรายได้ 3 เท่ากว่าวันธรรมดา จึงปลอบใจตัวเองได้ ที่จริง ช่วงตรุษจีนที่ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ครั้งแรก สีว์ หลันซินก็คิดถึงบ้านมาก แต่เนื่องจาก สถานการณ์โรคโควิดด้วย เธอรู้สึกว่าตัวเองมีภาระหน้าที่ที่สำคัญยิ่ง จึงตั้งใจไม่หยุดงานในช่วงเทศกาลสำคัญดังกล่าว

ช่วงตรุษจีนปีนี้ก็มีสภาพเช่นกัน ผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราจำนวนมากไม่สามารถกลับบ้านของตนได้ สีว์ หลันซินตกลงอีกว่าจะไม่กลับบ้านเกิดและทำงานต่อ เพื่อดูแลผู้สูงอายุเหล่านี้ให้มีตรุษจีนที่ปลอดภัยและสนุกสนาน เธอบอกว่า สิ่งสำคัญที่สุดของงานนี้ก็คือความรับผิดชอบ เมื่อเห็นผู้สูงอายุเหล่านี้สุขภาพดีและมีความสุข ตัวเองก็รู้สึกชื่นใจเป็นพิเศษ รอจนสถานการณ์โรคโควิดดีขึ้นและมีงานเบาลงแล้ว ค่อยกลับบ้าน เพราะไม่ได้เจอพ่อแม่นานแล้ว คิดถึงพวกท่าน

ในเมืองใหญ่อย่างกรุงปักกิ่ง บริการสำคัญที่ผู้คนนิยมใช้กันอีกอย่างคือ การส่งพัสดุด่วน แต่ถึงช่วงตรุษจีน บริษัทส่งด่วนส่วนใหญ่จะหยุดงาน บริษัทที่ยืนหยัดทำงานในช่วงนี้เหลือเพียงไม่กี่แห่ง และบริษัทซุ่นเฟิงก็เป็นหนึ่งในจำนวนนี้ นายเฉิน เหลย อายุ 37 ปี เป็นผู้ส่งพัสดุด่วนบริษัทซุ่นเฟิง ได้ยืนหยัดการทำงานในช่วงตรุษจีนโดยไม่กลับบ้านเกิดติดต่อกันหลายปีแล้ว

นายเฉินบอกเล่าว่า ช่วงตรุษจีน เพื่อนส่วนใหญ่จะหยุดงานและกลับบ้านเกิด คนที่เหลืออยู่มีน้อย จึงมีงานหนักกว่าปกติ แต่ก็มีรายได้มากกว่า บวกกับการเกิดสถานการณ์โรคโควิดอีก ท้องที่ต่างๆล้วนรณรงค์งดเดินทางข้ามเมืองในช่วงตรุษจีน ปีนี้จึงตกลงทำงานต่อที่ปักกิ่งในช่วงนี้ แม้คิดถึงลูกและครอบครัวก็ตาม แต่ต้องอดทนหน่อย รอจนสถานการณ์โรคดีขึ้นแล้วค่อยกลับบ้าน

แบบอย่างเช่นนี้ยังมีอีกมากมาย คนเหล่านี้สละโอกาสอยู่กับครอบครัวในช่วงเทศกาลสำคัญที่สุดของจีน โดยเลือกทำงานให้บริการแก่คนอื่นๆที่มีความต้องการ เพื่อให้ผู้คนในเมืองฉลองตรุษจีนอย่างปลอดภัย สนุกสนาน และมีความสะดวกสบาย

Yim/Sun

  • เสียงข่าวประจำวัน (24-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (24-04-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (24-04-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (23-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (23-04-2567)

晏梓