วันที่ 8 มีนาคม นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจัดประชุมสุดยอดกับนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีผ่านระบบทางไกล

โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงชี้ให้เห็นว่า ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญระดับโลก และการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบศตวรรษที่ผ่านมาได้นำมาซึ่งความท้าทายระดับโลกหลายประการที่ต้องแก้ไขผ่านความร่วมมือระดับโลก  จีนและสหภาพยุโรปมีความเข้าใจร่วมกันอย่างมากในการส่งเสริมสันติภาพ แสวงหาการพัฒนา และกระชับความร่วมมือ เราจำเป็นต้องแบกรับความรับผิดชอบของเราในการนำความมั่นคงและความแน่นอนมากขึ้นมาสู่โลกที่กำลังเกิดความวุ่นวายและเปลี่ยนแปลง  เราทั้งสองฝ่ายควรส่งเสริมการเจรจา ยึดมั่นในความร่วมมือ และสนับสนุนความก้าวหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนแห่งความสัมพันธ์จีน-สหภาพยุโรป  การพัฒนาของจีนจะสร้างพื้นที่กว้างขึ้นสำหรับความร่วมมือระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป    ทั้งสองฝ่ายต้องยึดหลักการที่เอื้อประโยชน์ต่อกันและได้ชัยชนะร่วมกัน กระชับความร่วมมือด้านความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และดิจิทัล ตลอดจนความร่วมมือในทางปฏิบัติในด้านต่างๆให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น  ทั้งสองฝ่ายยังจำเป็นต้องสนับสนุนความเป็นพหุภาคีอย่างต่อเนื่องและขับเคลื่อนวาระสำคัญระดับโลกต่อไป

ด้านนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แสดงความยินดีกับจีนที่ได้ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่ง  และกล่าวว่าโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายมากมาย  หากแต่ละประเทศดำเนินการโดยคำนึงถึงตนฝ่ายเดียวก็จะทำให้สถานการณ์แย่ลง   ฝ่ายยุโรปให้ความสำคัญกับบทบาทที่สำคัญและเป็นบวกของจีนในกิจการระหว่างประเทศ และเต็มใจที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับจีน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สาธารณสุข และความท้าทายระดับโลกอื่นๆ  ฝ่ายยุโรปพร้อมที่จะทำงานร่วมกับจีน เพื่อให้การประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป-จีนประสบความสำเร็จ และขับเคลื่อนความสัมพันธ์ฝรั่งเศส-จีน เยอรมนี-จีน และสหภาพยุโรป-จีน ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนในปัจจุบัน

โดยนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายโอลาฟ ชอลซ์  นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้อธิบายความคิดเห็นและจุดยืนของพวกเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนในปัจจุบัน โดยกล่าวว่า ยุโรปกำลังเผชิญกับวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา  ฝรั่งเศสและเยอรมนีสนับสนุนการแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจา และให้โอกาสสันติภาพ

ผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนีกล่าวขอบคุณจีนที่เสนอข้อริเริ่มในสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม และกล่าวว่าทั้งสองประเทศพร้อมที่จะเสริมสร้างการสื่อสารและการประสานงานกับจีน ส่งเสริมการเจรจาเพื่อสันติภาพ และป้องกันไม่ให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอีก ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายยิ่งขึ้น 

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงย้ำว่า สถานการณ์ในยูเครนในปัจจุบันน่าเป็นห่วง ฝ่ายจีนรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งกับการเกิดสงครามในทวีปยุโรปอีกครั้ง  จีนมีข้อคิดเห็นว่า อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศต้องได้รับความเคารพ วัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติต้องได้รับการปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ ข้อกังวลด้านความปลอดภัยที่สมเหตุสมผลของทุกประเทศต้องได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง และความพยายามทุกอย่างที่เอื้อต่อการแก้ไขวิกฤตด้วยสันติวิธี ต้องได้รับการสนับสนุน   ภารกิจที่เร่งด่วนในขณะนี้คือ ป้องกันไม่ให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอีก จนกระทั่งควบคุมไม่ได้  จีนชื่นชมฝรั่งเศสและเยอรมนีที่ได้ใช้ความพยายามไกล่เกลี่ยในสถานการณ์ยูเครน จีนจะรักษาการติดต่อสื่อสารและการประสานงานกับฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพยุโรป และ จะทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศอย่างแข็งขันโดยคำนึงถึงความต้องการของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

(yim/cai)