วันที่ 25 มีนาคม สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคระบาดคณะรัฐมนตรีจีนจัดการแถลงข่าว นายหมี่ เฟิง โฆษกคณะกรรมการสุขภาพและอนามัยแห่งชาติจีนกล่าวว่าปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใหม่ในจีนเพิ่มมากขึ้น บริเวณแพร่ระบาดขยายวงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือการระบาดยังอยู่ในขั้นตอนที่เพิ่มขึ้น เราควรเน้นแนวนโยบาย “โควิดเป็น 0 อย่างรวดเร็ว” ยกระดับความสามารถในการตรวจสอบเตือนภัยสภาพโรคระบาดและการใช้มาตรการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินให้สูงขึ้น จัดการตรวจโควิดตามหลักวิทยาศาสตร์ จัดการผู้ติดเชื้อไวรัสให้เข้าศูนย์รักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ กักบริเวณผู้ที่เคยใกล้ชิดผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมทุกขั้นตอน ตัดวงจรการแพร่ระบาดในชุมชนอย่างสิ้นเชิง ใช้ความพยายามเพื่อบรลุเป้าหมายให้ผู้ติดเชื้อในสังคมเป็น 0 โดยเร็ว และผลักดันโครงการฉีดวัคซีนตามขั้นตอนอย่างมีระเบียบ สร้างแนวป้องกันโควิดที่ดำเนินการมา
นายเหลย เจิ้งหรง รองอธิบดีกรมควบคุมโรคคณะกรรมการสุขภาพและอนามัยแห่งชาติจีนกล่าวว่า ปัจจุบันจีนอยู่ในขั้นตอนสำคัญของการป้องกันและควบคุมโควิด-19 สถานการณ์ยังคงเข้มงวดอยู่ สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคระบาดคณะรัฐมนตรีจีนสั่งการให้มณฑลที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด ให้ปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการป้องกันควบคุมโรคระบาดอย่างเอาจริงเอาจัง เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดโดยเร็ว ป้องกันไม่ให้โรคระบาดขยายวงกว้างขึ้น ท้องที่ที่ยังไม่มีเกิดสภาพระบาดควรเน้นย้ำความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันเป็นประจำ มีความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินด้านโรคระบาด
จนถึงวันที่ 24 มีนาคม ทั่วประเทศจีนมีการฉีดวัคซีนต้านโควิดรวม 3,243 ล้านครั้ง มีผู้รับการฉีดวัคซีนรวมกว่า 1,275 ล้านคน ผู้รับการฉีดวัคซีนครบกว่า 1,240 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 88% ของประชากรทั่วประเทศ
นายเหลย เจิ้งหรง กล่าวว่าการฉีดวัคซีนครบ ( 2 เข็มหรือ 3 เข็ม) จะลดอัตราเข้าโรงพยาบาล อาการหนักและความเสี่ยงเสียชีวิตให้น้อยลง โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่รับการฉีดวัคซีน จะได้ลดความเสี่ยงอาการหนักหรือเสียชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าผู้คนทั่วที่ไปรับการฉีดวัคซีนครบตามขั้นตอน ถ้ามีความพร้อมก็ควรฉีดเข็มกระตุ้น
(Bo/Lin/Cui)