นิตยสาร "New Scientist" ของอังกฤษตีพิมพ์บทความระบุว่า สองปีที่ผ่านมาที่องค์การอนามัยโลกประกาศว่าเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ยังคงเปลี่ยนกลยุทธ์ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่ง คือ นิวซีแลนด์ เวียดนาม และประเทศต่าง ๆ ละทิ้งกลยุทธ์ "โควิด-19 เป็นศูนย์" ซึ่งประเทศเหล่านี้กำลังเปิดประเทศและอนุญาตให้เกิดแพร่กระจายของโควิด-19 แต่มีหลักฐานว่ากลยุทธ์ "โควิด-19 เป็นศูนย์" ยังคงเป็นวิธีดีที่สุดในการต่อสู้กับการแพร่ระบาด
ประโยชน์ชัดเจนที่สุด คือ มีผู้เสียชีวิตน้อยกว่ามาก จนถึงวันที่ 18 มีนาคม นิวซีแลนด์มีการยืนยันผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 151 ราย คิดเป็น 0.003% ของยอดประชากร เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วอังกฤษมีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันกว่า 164,000 ราย หรือคิดเป็น 0.24% ของจำนวนประชากร
กลยุทธ์ "โควิด-19 เป็นศูนย์" ยังช่วยลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ เมื่อแทบไม่มีไวรัส ประชาชนมีความมั่นใจที่จะออกไปเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ การล็อกดาวน์ครั้งแรกเป็นต้นทุนทางเศรษฐกิจ แต่หลายประเทศที่อนุญาตให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสก็ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อรักษาระบบสาธารณสุขของพวกเขา และก็มีผลที่ตามมาเช่นกัน คือ การล็อคดาวน์ของพวกเขามักจะนานกว่า ผลการศึกษาในปี 2021 พบว่า เศรษฐกิจที่มีการระบาดเป็นศูนย์เติบโตเร็วกว่าเศรษฐกิจที่ปล่อยให้ไวรัสแพร่กระจาย
บทความระบุว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ยึดกลยุทธ์ "โควิด-19 เป็นศูนย์" ทำได้ดีกว่าในทุกดัชนี ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเสียชีวิตไปจนถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ หากมีประเทศมากยิ่งขึ้นใช้กลยุทธ์นี้มนุษยชาติจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้น เมื่อเกิดการระบาดใหญ่ครั้งต่อไป รัฐบาลควรพิจารณาลองใช้กลยุทธ์ "โควิด-19 เป็นศูนย์" เพื่อขจัดไวรัส
Tim/kt/cui