การร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชนทำให้ความมุ่งมั่นตั้งใจของสีจิ้นผิงแข็งแกร่งขึ้น นั่นคือ มุ่งมั่นเพื่อความผาสุกของประชาชน และการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองแห่งประชาชาติจีน ในทศวรรษที่ผ่านมา สี จิ้นผิงได้ริเริ่มแคมเปญให้การศึกษาแก่สมาชิกทั่วทั้งพรรค 5 ครั้ง เพื่อเตือนสมาชิกพรรคฯ ต้องระลึกถึงปณิธานดั้งเดิม และพันธกิจในการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน
สี จิ้นผิงเข้าใจความทุกข์ยากของประเทศชาติหลังสงครามฝิ่นที่ก่อขึ้นโดยนักล่าอาณานิคมตะวันตกในศตวรรษที่ 19 ในปี 2018 เขาเดินทางไปเยี่ยมชมโบราณสถานป้อมปืนใหญ่บนเกาะหลิวกงในมณฑลซานตง ทางตะวันออกของจีน เมื่อ100 กว่าปีก่อนเกาะแห่งนี้ได้เป็นประจักษ์พยานถึงความพ่ายแพ้ย่อยยับของกองทัพเรือสมัยใหม่กองแรกของจีนในสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง สี จิ้นผิงหยุดครุ่นคิดที่โบราณสถานแห่งนี้ และภายในพิพิธภัณฑ์สงครามครั้งนี้ เขาได้อ่านบทกวีรักชาติที่แสดงความเศร้าใจต่อการรุกรานของต่างชาติในสมัยนั้น
ในฐานะเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนคนแรกที่เป็นคนเกิดหลังการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 สี จิ้นผิง มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จหลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่า "ประชาชนจีนลุกขึ้นยืนแล้ว" นั่นคือ ชัยชนะในสงครามต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ และช่วยเหลือสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี การจัดตั้งระบบอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ตลอดจนการผลิตระเบิดนิวเคลียร์และดาวเทียม เขาชื่นชมความสำเร็จเหล่านี้ว่า “สังคมนิยมเท่านั้นที่จะช่วยจีนได้ สังคมนิยมเท่านั้นที่จะพัฒนาจีนได้”
หลังจากจีนดำเนินนโยบายการปฏิรูปและเปิดประเทศ สี จิ้นผิง มีความกระตือรือร้นอย่างมากและอุทิศตนเพื่อภารกิจนี้ สี จิ้นผิง ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนการพัฒนาร่วมกันของธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งพื้นที่ห่างไกลจากความเจริญที่ค่อนข้างยากจนและพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกที่ค่อนข้างมั่งคั่ง หลังดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคฯ สี จิ้นผิงได้เรียกการประชุมเกี่ยวกับธุรกิจภาคเอกชน เขากล่าวในที่ประชุมว่า นักธุรกิจและผู้ประกอบการภาคเอกชนเป็น "คนของเรา" เศรษฐกิจภาคเอกชนของจีนต้องแข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่อ่อนแอลง
สี จิ้นผิงได้รับการยกย่องจากสหายทั้งในระดับท้องถิ่นและส่วนกลางว่าเป็นผู้วางแผนระยะยาวได้ดี
ในปี 2020 สี จิ้นผิง ได้ชี้แนะการกำหนดแนวทางในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 และเป้าหมายระยะยาวจนถึงปี 2035 ของประเทศ ช่วงเวลานั้น เขาได้เรียกประชุมหลายครั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ นักธุรกิจ นักวิทยาศาสตร์ และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ พร้อมทั้งสั่งให้รวบรวมข้อเสนอแนะจากประชาชนทั่วประเทศผ่านทางออนไลน์ ผลปรากฏว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวจีนกว่า 1 ล้านคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ชาวจีนมีความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2021 รายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวจีนอยู่ที่ 35,128 หยวน เพิ่มขึ้นเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2012 ระยะห่างทางรายได้ระหว่างเมืองและชนบทลดลงเหลือ 2.5 ต่อ 1
สี จิ้นผิงเคยกล่าวว่า สิ่งที่เขาทำก็เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เขาเคยเขียนในบทความฉบับหนึ่งว่า "เราต้องรักประชาชนเหมือนที่เรารักพ่อแม่ของเรา ต้องทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน และทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น" หลังดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 2012 สี จิ้นผิงกล่าวว่า "ความปรารถนาของประชาชนที่ต้องการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนั้นก็คือเป้าหมายบากบั่นต่อสู้ของพวกเรา"
สี จิ้นผิง กล่าวกับสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมเต็มคณะครั้งแรกของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ว่า ประชาชนจะคอยสนับสนุนและให้กำลังใจเราเสมอ ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะร่วมแรงร่วมใจและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับประชาชนตลอดไป เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคทุกอย่างบนเส้นทางการพัฒนาประเทศ
ปัจจุบัน พรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาลจีนได้รับเสียงสนับสนุนในระดับสูงมากจากประชาชนทั่วประเทศ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า ความพึงพอใจของชาวจีนที่มีต่อรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสูงถึงร้อยละ 93 ขณะที่ผลสำรวจของบริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ Edelman แสดงว่า ในปี 2021 ความไว้วางใจต่อรัฐบาลของชาวจีนสูงถึง 91 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจัดอยู่ในอันดับแรกของโลก
(yim/cai)