ทางการจีนประกาศว่า นับแต่วันที่ 8 มกราคม ปี 2023 เป็นต้นไป จะยกเลิกมาตรการตรวจโควิดและการกักตัวผู้เข้าเมืองเมื่อเดินทางถึงแผ่นดินจีน แต่ยังคงการตรวจโควิด-19 จากประเทศต้นทาง 48 ชม. และฟื้นฟูการท่องเที่ยวต่างประเทศของพลเมืองจีนอย่างเป็นระบบระเบียบ
นโยบายใหม่นี้ส่งผลดีต่อยอดธุรกิจการท่องเที่ยวอย่างเห็นได้ชัด
สถิติจากแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์ต่างๆ ของจีนชี้ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังกลับมาคึกคัก
โดยสถิติจากแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวออนไลน์จีน Ctrip ระบุว่า ภายในครึ่งชั่วโมงหลังการออกประกาศดังกล่าว ทำให้การค้นหาการเดินทางไปต่างประเทศได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 10 เท่าเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ปริมาณการค้นหาตั๋วเครื่องบิน โรงแรมในต่างแดนพุ่งสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การค้นหาบริษัทกลุ่มทัวร์เมืองนอกในช่วงเทศกาลตรุษจีนพุ่ง 6 เท่า ใบสั่งซื้อตั๋วเครื่องบินสู่สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ฮ่องกงของจีน ญี่ปุ่น และประเทศไทยอยู่อันดับต้นๆ เป็น 5 อันดับแรกด้านเป้าหมายการเดินทางยอดฮิตในต่างแดนสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนหลังประกาศยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางข้ามแดน
△Merlion (เมอร์ไลออน สิงค์โตหางปลา หรือ สิงค์โตนางเงือก) สิงคโปร์ ในยามราตรี
△เกาะเจจู (Jeju Island) เกาหลีใต้
△ท่าเรือวิคตอเรีย (Victoria Harbour ) ฮ่องกงของจีน ในยามราตรี
สถิติจาก Fliggy ระบุว่า ภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมงหลังการออกประกาศผ่อนปรนมาตรการดังกล่าว ปริมาณการค้นหาเที่ยวบินระหว่างประเทศในแพลตฟอร์มพุ่งพรวดกว่า 8 เท่า
ส่วนปริมาณการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางท่องเที่ยวต่างแดนในTuniu.com ก็ร้อนแรงเช่นกัน ปรากฏว่า ญี่ปุ่น สหรัฐ ประเทศไทย เกาหลีใต้ มัลดีฟส์ (Maldives) อยู่ในอันดับต้นๆ ของการค้นหาประเทศเป้าหมายการเดินทาง
△ หอโตเกียว ญี่ปุ่น
△พระบรมมหาราชวัง ประเทศไทย
กัว เล่อชุน รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยบิ๊กดาตา Qunar ของจีน ระบุว่า นโยบายการเข้า-ออกเมืองที่ผ่อนคลายขึ้น ถือเป็นการยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยว ทำให้ความต้องการด้านการเดินทางเพิ่มขึ้น ราคาตั๋วเครื่องบินยังคงอยู่ในระดับแพง แต่คาดว่า ในสิ้นเดือนมีนาคม เที่ยวบินจะฟื้นฟูอย่างชัดเจน ราคาตั๋วเครื่องบินจะกลับสู่ระดับที่สมเหตุสมผลอย่างต่อเนื่อง ช่วงไฮซีซัน หรือฤดูกาลท่องเที่ยวจะทำให้บรรยากาศการเข้า-ออกเมืองน่าจะคึกคักขึ้น ในช่วงฤดูร้อนปี 2023
(Ying/LING/SUN)