ในช่วงต้นปี 2023 ที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนได้เริ่มต้นกำหนดการทางการทูตใหม่ โดยได้จัดการเจรจากับนายเฟอร์ดินานด์ โรมูอัลเดซ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีแห่งฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม และได้จัดการเจรจากับนายเซร์ดาร์ เบอร์ดีมูฮาเมดอฟ ประธานาธิบดีแห่งเติร์กเมนิสถานเมื่อวันที่ 6 มกราคมตามลำดับ
สี จิ้นผิง ได้หารือประเด็นอะไรกับประมุขของทั้งสองประเทศ? มีรายละเอียดอะไรบ้างที่ควรค่าแก่การให้ความสนใจ? ได้ถ่ายทอดเสียงจีนแบบไหน?
คำบรรยายภาพ: สี จิ้นผิงจัดพิธีต้อนรับประธานาธิบดีมาร์กอสของฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนจีน ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 4 มกราคม ปี 2023
เสริมสร้างความร่วมมือ สร้างจุดเด่นใหม่
ความร่วมมือจีน-ฟิลิปปินส์มีประเพณีที่ลึกซึ้ง การเกษตร โครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และวัฒนธรรมเป็นส่วนสำคัญแห่งความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ ในระหว่างการเจรจา สี จิ้นผิง เปรียบเทียบความร่วมมือหลักทั้ง 4 ด้านดังกล่าวเป็น "4 คานและ 8 เสา" ที่ค้ำจุนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-ฟิลิปปินส์ และชี้ว่าต้องทุ่มเทในการบ่มเพาะจุดเติบโตและสร้างจุดเด่นใหม่ๆ
ฝ่ายฟิลิปปินส์ก็มีท่าทีอันแข็งขันในเรื่องนี้เช่นกัน ตามรายงานของสื่อฟิลิปปินส์ ในคณะผู้ติดตามประธานาธิบดีมาร์กอสนั้น นอกเหนือจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแล้ว ยังรวมถึงคณะผู้แทนนักธุรกิจขนาดใหญ่ด้วย ระหว่างการเยือนครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือมากกว่า 10 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมการเกษตรและการประมง โครงสร้างพื้นฐาน การเงิน ศุลกากร อีคอมเมิร์ซ การท่องเที่ยว และสาขาอื่นๆ ประธานาธิบดีมาร์กอสกล่าวว่า เอกสารความร่วมมือเหล่านี้จะมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศฟิลิปปินส์อย่างมาก
ประธานาธิบดีเซร์ดาร์ เบอร์ดีมูฮาเมดอฟแห่งเติร์กเมนิสถานก็ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์การพัฒนากับจีนเช่นกัน มีรองนายกรัฐมนตรีถึง 6 คนที่ติดตามเขาในการเยือนจีนครั้งนี้
สื่อมวลชนสังเกตเห็นว่าในบรรดาเอกสารความร่วมมือสำคัญที่ลงนามระหว่างจีนกับเติร์กเมนิสถานนั้น มี"บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนกับรัฐบาลเติร์กเมนิสถานว่าด้วยการร่วมสร้างสรรค์ตามข้อริเริ่ม'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง' และการเชื่อมโยงทางยุทธศาสตร์'การฟื้นฟูเส้นทางสายไหม' "รวมอยู่ด้วย
คำบรรยายภาพ: สี จิ้นผิงจัดพิธีต้อนรับประธานาธิบดีเซร์ดาร์ เบอร์ดีมูคาเมดอฟแห่งเติร์กเมนิสถาน ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนจีน ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 6 มกราคม ปี 2023
"เติร์กเมนิสถานยินดีที่จะขับเคลื่อนการเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ 'การฟื้นฟูเส้นทางสายไหม' กับข้อริเริ่ม 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง'อย่างแข็งขัน " ประธานาธิบดีเซร์ดาร์ เบอร์ดีมูฮาเมดอฟกล่าว
ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 10 ปีการเสนอข้อริเริ่ม'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง'โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ปัจจุบันข้อริเริ่ม'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง'ได้บรรลุการครอบคลุมอย่างสมบูรณ์ในเอเชียกลาง การลงนามในบันทึกความเข้าใจครั้งนี้ย่อมจะอัดฉีดแรงผลักดันใหม่ ๆ สู่ความร่วมมือระหว่างจีนกับเติร์กเมนิสถานอย่างไม่ต้องสงสัย
ในขณะเดียวกัน จีนกับเติร์กเมนิสถานยังได้ลงนามในเอกสารความร่วมมือในด้านการพัฒนาสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล สาธารณสุข วัฒนธรรม กีฬา สื่อสารมวลชน ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น ความร่วมมือด้านก๊าซธรรมชาติเป็นรากฐานที่สำคัญแห่งความสัมพันธ์จีน-เติร์กเมนิสถาน ในระหว่างการเจรจา ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมกันปฏิบัติตามข้อตกลงที่มีอยู่ให้ดี เร่งผลักดันกระบวนการเจรจาก๊าซธรรมชาติ เร่งการดำเนินโครงการสำคัญ และขยายความร่วมมือในอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติและสาขาอื่น ๆ อย่างแข็งขัน
ในช่วงต้นปีใหม่ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กับประธานาธิบดีผู้มาเยือนของทั้งสองประเทศได้พูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการเสริมสร้างมิตรภาพ เพิ่มพูนความไว้วางใจซึ่งกันและกัน แสวงหาความร่วมมือ เพื่อวาดพิมพ์เขียวอนาคตใหม่บนพื้นฐานแห่งจุดเริ่มต้นใหม่ ภายใต้การแนะแนวจาก “การทูตประมุข” การทูตของประเทศขนาดใหญ่ที่มีอัตลักษณ์จีนย่อมจะบรรลุผลสำเร็จใหม่ที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในรอบปีใหม่
YIM/LU