"โรงเรียนของเรามี 'เด็กแว่น' น้อยลงเรื่อยๆ"– เรื่องราวของข้าพเจ้ากับ 'สีจิ้นผิง' (2)

2023-02-13 13:22:43 | CMG
Share with:

วันที่ 21 เมษายนปี 2020 ในระหว่างการตรวจเยี่ยมพื้นที่อำเภอลี่ เมืองอันคัง มณฑลส่านซี ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ยากจนข้นแค้นที่สุดในบริเวณเทือกเขาฉินหลิงและเทือกเขาต้าปาซานนั้น นายสี จิ้นผิง เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานาธิบดีจีนได้เดินทางไปที่โรงเรียนประถมกลางตำบลเหล่าเซี่ยน เพื่อดูสภาพการจัดเรียนการสอนและสภาพความเป็นอยู่ของเด็กๆ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสัมภาษณ์นายอู๋ จิ่นเผิง ครูใหญ่โรงเรียนประถมแห่งนี้  เขาได้แบ่งปันความทรงจำอันอบอุ่นและความปลื้มปีติกับเราดังต่อไปนี้

วันนั้นฝนตกในฤดูใบไม้ผลิ ท่านเลขาธิการใหญ่เดินเข้าไปในห้องเรียนหมายเลข 1 ของชั้นประถมศึกษาปีที่ห้าพร้อมทักทายเด็ก ๆ อย่างเป็นกันเอง เด็ก ๆ ก็จําคุณปู่สีได้ ต่างก็อดไม่ได้ที่จะยืนขึ้น โบกมือและส่งเสียงทักทายอย่างสนิทสนมว่า "สวัสดีคุณปู่สี!"

ท่านเลขาธิการใหญ่ได้สอบถามครูถึงสภาพการเรียนการสอนและชีวิตความเป็นอยู่ของนักเรียน ท่านยังให้ความสนใจเป็นพิเศษกับสุขภาพของเด็กๆ เมื่อเห็นว่ามีเด็กสวมแว่นตาไม่มาก ท่านเลขาธิการใหญ่จึงกล่าวด้วยความพอใจว่า "นี่เป็นสิ่งสําคัญมาก " 

ท่านเลขาธิการใหญ่กล่าวด้วยความห่วงใยว่า "ทุกวันนี้เด็กมักจะต้องสวมแว่นตา นี่เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกกังวล รวมถึงสุขภาพกายด้วย ซึ่งก็แย่ลงเนื่องจากการออกกำลังกายมีไม่เพียงพอ หากต้องการทำให้ผู้คนมีอารยะทางจิตวิญญาณมากขึ้น ก็ต้องทำให้ร่างกายของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นก่อน”

ท่านเลขาธิการใหญ่เอาใจใส่มากขนาดนี้ในเรื่องสายตาและสุขภาพร่างกายของเด็กๆ  ทำให้ผมและบรรดาครูทั้งหลายรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ผมบันทึกคำพูดของท่านเลขาธิการใหญ่ลงในบันทึกการทำงานประจำวันและได้ทำความเข้าใจครั้งแล้วครั้งเล่า

เพื่อแก้ไขปัญหาข้อกังวลเกี่ยวกับ "เด็กแว่น" ของท่านเลขาธิการใหญ่ให้ดียิ่งขึ้น โรงเรียนได้ติดตั้งหลอดไฟถนอมสายตาทุกห้องเรียน ได้ติดตั้งอุปกรณ์ปรับท่านั่งให้กับชุดโต๊ะเขียนหนังสือของนักเรียนในระดับกลางและต่ำ รวมถึงจัดห้องเรียนพิเศษด้านการป้องกันสายตาสั้นและห้องบำรุงสายตา เพื่อให้เด็กที่สายตาไม่ดีได้ฝึกฝนการถนอมรักษาสายตาสั้นด้วยการพักผ่อนสายตา ในขณะเดียวกัน เราเพิ่มเวลาสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งให้กับเด็กๆ แนะนำให้นักเรียนรักธรรมชาติ ปัจจุบัน "เด็กแว่น" ในโรงเรียนของเรามีน้อยลงเรื่อยๆ

เรายังได้ตั้งทีมนักกีฬาอูซูประจำโรงเรียนและชมรมอูซู โดยมีโค้ชอูซูมืออาชีพ ซึ่งได้เรียบเรียงชุดกระบวนท่ารำเพื่อใช้ในช่วงพักเบรกระหว่างคาบเรียน ทุกวันนี้นักเรียนจะรำมวยจีนในช่วงพักเบรกระหว่างคาบเรียนเป็นเวลาเกือบ 10 นาทีทุกเช้า หลังจากยืดเส้นยืดสายแล้ว  "กำลังวังชาและกำลังใจ" ของเด็กๆจะเต็มเปี่ยมมากขึ้น เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น พวกเขาก็จะมีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเต็มที่ยิ่งขึ้นในการเรียนรู้วิทยาการในห้องเรียน

ช่วงสองปีที่ผ่านมา โรงเรียนของเราได้สร้างโรงอาหารและหอพักใหม่ ได้ปรับปรุงอาคารเรียนและสนามกีฬาด้วย นักเรียนสามารถร้องเพลงและวาดภาพในห้องเรียนดนตรีและวิจิตรศิลป์ หรือออกกำลังกายบนสนามหญ้าได้ทั้งนั้น เด็กๆ ไม่เพียงแต่ได้ "เรียนหนังสือในโรงเรียน" เท่านั้น แต่ยัง "มีสภาพแวดล้อมในการเรียนที่ดี" อีกด้วย

ภายหลังท่านเลขาธิการใหญ่มาเยี่ยมโรงเรียนของเรา เด็กๆ มีกำลังใจอย่างมาก พวกเขาปฏิบัติตามคำสอนของคุณปู่สี ตั้งใจเรียนหนังสือ หมั่นออกกำลังกาย จึงมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ในหมู่พวกเขามีเด็กที่ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 คนหนึ่ง เขาบอกว่าเป็นเรื่องที่มีความสุขมากที่ได้พบคุณปู่สี เขาจดจำทุกคำพูดของคุณปู่สีไว้ในใจ เมื่อก่อนเด็กคนนี้ไม่ชอบออกกำลังกาย แต่เวลานี้เขาชอบเล่นปิงปองและฟุตบอล ทั้งยังได้กลายเป็นนักเล่นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมในโรงเรียนด้วย เขามีใบหน้าที่เปื้อนยิ้มอย่างมั่นใจตลอดวัน


YIN/LU

  • เสียงข่าวประจำวัน (14-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (14-11-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (14-11-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (13-11-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (13-11-2567)