ปธน.สี จิ้นผิงนำจีนสู่ความแข็งแกร่ง

2023-02-24 12:57:52 | CRI
Share with:

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้สืบทอดภารกิจการบรรลุความทันสมัยของจีน ซึ่งเป็นภารกิจที่ชาวจีนรุ่นต่อรุ่นใฝ่ฝันและต่อสู้มาโดยตลอด 

เมื่อปี 2020 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เปิดเมืองท่าซานโถว(ซัวเถา)ในมณฑลกวางตุ้ง  สิ่งของจัดแสดงที่ได้รับความสนใจมากที่สุดจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงคือ  แผนการพัฒนาจีนให้เป็นประเทศที่ทันสมัยที่ออกแบบโดยดร.ซุน ยัตเซ็นเมื่อศตวรรษก่อน  ดร.ซุน ยัตเซ็นได้ประสบความสำเร็จในการปฏิวัติปี 1911 โดยได้โค่นล้มราชวงศ์สุดท้ายของจีนและก่อตั้งสาธารณรัฐจีนขึ้น แต่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายพัฒนาจีนให้เป็นประเทศที่ทันสมัยได้   สี จิ้นผิงกล่าวว่า  “มีเพียงพรรคคอมมิวนิสต์จีนเท่านั้นที่สามารถทำให้เป้าหมายนี้ปรากฎเป็นจริงขึ้นได้”   ในสายตาของสี จิ้นผิง  ความพยายามทั้งหมดของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการนำประชาชนทั่วประเทศจีนบากบั่นต่อสู้ในตลอดศตวรรษที่ผ่านมา มีเป้าประสงค์ที่จะพัฒนาจีนให้กลายเป็นประเทศที่ทันสมัยและยิ่งใหญ่  ตลอดจนบรรลุความฝันจีนในการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองแห่งประชาชาติจีน  

เมื่อ 10 ปีที่แล้ว สี จิ้นผิงเข้ารับตำแหน่งสูงสุดของพรรคฯ ตอนนั้น จีนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และเป็นผู้ผลิตชั้นนำอยู่แล้ว    แต่เศรษฐกิจต้องเผชิญกับแรงกดดันให้ชะลอตัวที่เพิ่มมากขึ้น และโครงสร้างเศรษฐกิจจำต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นปัญหายากลำบากอื่นที่ต้องได้รับการแก้ไข เช่น การทุจริต มลภาวะสิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำทางสังคม  ประเด็นปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นความท้าทายที่ร้ายแรงต่อการบริหารประเทศของพรรคฯ  

ทุกสายตาจับจ้องไปที่สี จิ้นผิง  ผู้คนทั้งหลายคาดหวังเขานำพาประเทศให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง และการเปลี่ยนแปลงนี้ต้องเริ่มจากตัวพรรคฯเอง   สี จิ้นผิง กล่าวว่า  การตีเหล็กที่ดีต้องใช้ช่างตีเหล็กที่ดี  เขาเรียกร้องให้ทำการปฏิรูปพรรคฯและบริหารพรรคฯอย่างเคร่งครัดในทุกด้าน   เขาเปิดตัวแคมเปญต่อต้านการทุจริตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคฯ  พร้อมทั้งกล่าว “เราต้องทำสิ่งที่ต้องทำ หากปล่อยให้เจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบนับพันนับร้อยคนหลุดรอดไปได้  เราก็จะทำให้ประชาชนจีน 1.3 พันล้านคนต้องผิดหวัง”

 

ในทศวรรษที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่ถูกลงโทษเนื่องจากทำการทุจริตและมีความประพฤติมิชอบ รวมถึงผู้นำระดับชาติ เช่น  โจว หย่งคัง (Zhou Yongkang), โป๋ ซีไหล (Bo Xilai), กัว โป๋สง (Guo Boxiong), สีว์ ไฉโฮ่ว (Xu Caihou), ซุน เจิ้งไฉ (Sun Zhengcai) และ ลิ่ง จี้ฮั่ว (Ling Jihua) ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยงานรัฐบาลกลาง หน่วยงานระดับมณฑล และรัฐวิสาหกิจ  นอกจากนี้ยังมีผู้ปฏิบัติงานจำนวนมากในหน่วยงานการปกครองส่วนท้องถิ่น    ในช่วงต้นปี 2022 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศว่า ได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการต่อสู้กับการทุจริต และชัยชนะนี้ได้รับการเสริมสร้างในทุกด้าน   แต่เขาเตือนผู้ปฏิบัติงานของพรรคว่า ต้องเข้าใจและตระหนักดีว่า  การต่อต้านการทุจริตจะไม่มีวันสิ้นสุด  

สี จิ้นผิง ต้องการให้สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนรวมกว่า 96 ล้านคนและองค์กรระดับท้องถิ่นของพรรคฯรวมกว่า 4.9 ล้านแห่ง รักษาความบริสุทธิ์และความแข็งแกร่ง   เขาย้ำว่า ความเป็นผู้นำในทุกด้านของพรรคฯเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสรรค์จีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัยและยิ่งใหญ่   พรรคฯจะต้อง “เป็นกระดูกสันหลังที่แข็งแรงที่ประชาชนจีนสามารถพึ่งพาได้ตลอดเวลา”  

สี จิ้นผิง เตือนผู้ปฏิบัติงานของพรรคฯหลายต่อหลายครั้งให้เรียนรู้จากบทเรียนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต และย้ำถึงความสำคัญของการมีความเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ในลัทธิคอมมิวนิสต์และการเสริมสร้างระเบียบวินัยของพรรค  เขาเป็นผู้นำในการกำหนดข้อบังคับ 8 ข้อ เพื่อปรับปรุงการปฏิบัติงานของพรรคฯให้ดีขึ้น  โดยกำหนดให้เจ้าหน้าที่ชั้นนำต้องรายงานเรื่องส่วนตัวและครอบครัวเป็นประจำ เช่น สถานะการสมรส การเงินส่วนบุคคล และการมีส่วนร่วมทางธุรกิจ  ระหว่างปี 2015 - 2021 พรรคฯได้จัดระเบียบธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคู่สมรส บุตร ตลอดจนคู่สมรสของบุตรของเจ้าหน้าที่ชั้นนำกว่า 4,700 ราย      สี จิ้นผิง ยังเป็นผู้นำในการกำหนดและแก้ไขปรับปรุงกฎข้อบังคับของพรรคฯหลายฉบับ  และปรับปรุงกลไกการตรวจสอบวินัย พร้อมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการตรวจราชการแห่งชาติ ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนในหน่วยงานของรัฐต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล 

ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า สี จิ้นผิง มีบทบาทสำคัญในการปรับโฉมหน้าของพรรคคอมมิวนิสต์จีน    หลิว จิ้งเป่ย  ศาสตราจารย์จากสถาบันผู้บริหารแห่งประเทศจีนในเขตผู่ตง เซี่ยงไฮ้  กล่าวว่า  สี จิ้นผิงได้เสริมสร้างความสามัคคีของสมาชิกพรรคด้านความคิด ทิศทางทางการเมือง และการปฏิบัติการ  และได้เปลี่ยนสภาวะที่ความเป็นผู้นำของพรรคฯกำลังอ่อนแอและถูกมองข้ามในบางพื้นที่และบางหน่วยงาน  

สี จิ้นผิง เรียกร้องให้ประชาชนเคารพและเรียนรู้จากวีรบุรุษ และมีการประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยการเคารพวีรบุรุษ ตลอดจนมีการจัดตั้งระบบมอบรางวัลและเกียรติยศให้แก่วีรบุรุษ นอกจากนี้ สี จิ้นผิง ยังได้เสนอค่านิยมหลักแห่งสังคมนิยม  เขากล่าวว่า  ใจความสำคัญของค่านิยมหลักแห่งสังคมนิยมคือ ความรักชาติ

  

สี จิ้นผิงได้ส่งเสริมแนวคิดเกี่ยวกับประชาธิปไตยทั้งกระบวนการโดยประชาชน และเรียกร้องให้ใช้ความพยายามมากขึ้นในการพัฒนาประชาธิปไตยแห่งสังคมนิยม  เขากล่าวว่า ประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประชาชน หากประชาชนตื่นขึ้นในเวลาเลือกตั้งเท่านั้น แต่หลังจากนั้นก็เข้าสู่ภาวะจำศีล ประชาธิปไตยแบบนี้ก็เป็นเพียงพิธีการเท่านั้น 

การปกครองบริหารประเทศในทุกด้านภายใต้หลักนิติธรรมที่สี จิ้นผิง เร่งขับเคลื่อนนั้น ถือเป็นการปฏิวัติการปกครองบริหารประเทศอย่างลึกซึ้ง สี จิ้นผิง กล่าวว่า หลักนิติธรรมสำหรับประเทศ รัฐบาล และสังคมนั้นจะต้องมีผลบังคับใช้อย่างครอบคลุมภายในปี2035 เขาเป็นประธานาธิบดีจีนคนแรกที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งต่อหน้ารัฐธรรมนูญของประเทศ เขากล่าวว่า รัฐธรรมนูญมีสถานะ อำนาจ และบทบาททางกฎหมายสูงสุด  

ในทศวรรษที่ผ่านมา สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนได้บัญญัติกฎหมาย 70 ฉบับ และปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย 238 ฉบับ  กฎหมายหลายฉบับเป็นกฎหมายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก   เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งที่มีผลบังคับใช้ในปี 2020 และกฎหมายว่าด้วยการลงทุนจากต่างประเทศที่มีผลบังคับใช้ในปี 2019 ซึ่งเป็นกฎหมายว่าด้วยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมการเปิดเสรีในระดับสูงและการอำนวยความสะดวกในการลงทุนจากต่างประเทศ  

ความพยายามเหล่านี้ช่วยสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนา

เศรษฐกิจ  สี จิ้นผิงเสนอแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่  เขากล่าวว่า การปฏิรูปของจีนได้เข้าสู่ช่วงที่ต้องดำเนินการในระดับลึกแล้ว  เขาเป็นประธานคณะกรรมการกลางหลายชุด เพื่อเสริมสร้างความเป็นผู้นำของพรรคฯในด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการปฏิรูปและการเปิดประเทศ    เขายังเป็นผู้นำในการปรับปรุงหน่วยงานรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการลดภาษีและค่าธรรมเนียมสำหรับวิสาหกิจต่างๆ   

นับตั้งแต่การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 18 ในปี 2013 เป็นต้นมา  จีนได้ประกาศใช้แผนการปฏิรูปกว่า 2,000 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมเกือบทุกด้านของการดำเนินการทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และวัฒนธรรม ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน  


(yim/cai)

  • เสียงข่าวประจำวัน (03-05-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (03-05-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (03-05-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (02-05-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (02-05-2567)