สำนักข่าวซินหวารายงานว่า วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา กองทุนเพื่อเด็กสหประชาชาติ(UNICEF) และองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO : International Labour Organization) ร่วมออกรายงาน โดยระบุว่าจากปี 2016 - 2020 จำนวนเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีและขาดการคุ้มครองทางสังคมได้เพิ่มขึ้น 50 ล้านคน ซึ่งทำให้ยอดจำนวนเด็กที่ขาดการคุ้มครองทางสังคมในโลกพุ่งถึง 1,460 ล้านคน การคุ้มครองทางสังคมที่ขาดแคลนเป็นสำคัญ คือ สวัสดิการของเด็กที่ชำระด้วยเงินสดหรือการลดหย่อนภาษี
รายงานดังกล่าวมีหัวข้อว่า ความต้องการอันเร่งด่วนของเด็กจำนวน 1,000 ล้านคน สร้างสรรค์การคุ้มครองทางสังคมโดยทั่วไปให้แก่เด็ก โดยระบุว่า ในช่วงปี 2016-2020 อัตราการครอบคลุมด้านสวัสดิการของเด็กและครอบครัวตกอยู่ในภาวะลดน้อยลงหรือหยุดชะงักงันในทุกภูมิภาคของโลก อัตราการครอบคลุมด้านสวัสดิการของเด็กในภูมิภาคลาตินอเมริกาและแคริบเบียนได้ลดจากประมาณ 51% ลงมาเป็น 42% ส่วนอัตราการครอบคลุมด้านสวัสดิการของเด็กในเอเชียกลาง เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นประมาณ 21% 14% 11% และ 28% ตามลำดับ
รายงานดังกล่าวเน้นว่า หากไม่ให้การคุ้มครองทางสังคมอันเพียงพอ เด็ก ๆ จะเผชิญความยากจน โรคภัยไข้เจ็บ สูญเสียโอกาสการเข้าโรงเรียน และขาดสารอาหาร ตลอดจนเผชิญความเสี่ยงการสมรสก่อนวัยอันควรและตกเป็นแรงงานเด็ก
รายงานยังระบุด้วยว่า ในขอบเขตทั่วโลก ความเป็นไปได้ของเด็กที่อยู่ในภาวะสุดยากจนนั้น คิดเป็น 2 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่บรรลุนิติภาวะ เด็กเหล่านี้ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษา การรักษาพยาบาล ที่อยู่อาศัย โภชนาการ สุขาภิบาล หรือน้ำ
(YIM/ZHOU)