เล่ากันว่า กุ้ยหลินมีภูมิทัศน์ที่สวยงามที่สุดของประเทศ  คนโบราณเล่าว่า ขุนเขาสายน้ำของกุ้ยหลินสวยงามล้ำเลิศในใต้หล้า

กุ้ยหลินมีภูมิประเทศแบบคาสต์ที่เด่นชัด มีแม่น้ำสองสายไหลผ่านตัวเมือง จึงเกิดทะเลสาบหลายแห่ง  มียอดเขาเล็ก ๆ ที่โผล่ขึ้นจากพื้นดินจำนวนมากกระจายอยู่ทั่วเมือง สร้างทัศนียภาพที่เต็มไปด้วยยอดเขาแปลกประหลาดและสายน้ำสวยงาม เมืองที่มีภูมิทัศน์เช่นนี้หาได้ยากมากในจีนหรือแม้แต่ทั่วโลก เมื่อเดินอยู่ในเมืองกุ้ยหลิน ก็จะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่แตกต่างกันอยู่ตลอดเวลา

เขางวงช้าง ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของเมืองกุ้ยหลิน ที่นี่เป็นสถานที่บรรจบกันของแม่น้ำหลีเจียงและแม่น้ำเถาฮวาของเมืองกุ้ยหลิน แม่น้ำหลีเจียงอยู่ด้านหลังของภูเขา ส่วนแม่น้ำเถาฮวาอยู่ด้านหน้าของภูเขา

แม่น้ำหลีเจียงที่ของกุ้ยหลินมีระยะทาง 160 กิโลเมตรเป็นหนึ่งในแม่น้ำที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดในโลก ส่วนช่วงหยางซั่วของกุ้ยหลินก็เป็นช่วงที่สวยงามที่สุดของแม่น้ำหลีเจียง  ซึ่งภูเขาหยวนเป่าในตำบลซิงผิงได้ถูกพิมพ์บนด้านหลังของธนบัตรจีน 20 หยวนรุ่นที่ 5 ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1999

แม่น้ำหลีเจียงไหลจากเหนือลงใต้ผ่านตัวเมืองกุ้ยหลิน ทอดยาวหลายสิบกิโลเมตรมาถึงอำเภอหยางซั่ว ภูมิประเทศแบบคาสต์ริมแม่น้ำทำให้เกิดภูมิทัศน์อันงดงามที่ “น้ำล้อมรอบภูเขา  ภูเขาสะท้อนอยู่ในน้ำ”  ขุนเขาที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำสง่างาม มีรูปทรงหลากหลาย  ต้นไม้ริมฝั่งแม่น้ำสวยงามอ่อนช้อย ในน้ำมีเงาสะท้อนของขุนเขาที่ชวนให้จินตนาการ  บนพื้นน้ำมีนกเป็ดน้ำคอยจับปลาขึ้น ๆ ลง ๆ เรือแพสัญจรไปมา เมื่อแพลอยไปอยู่บนเงาของภูเขา สายลมพัดผ่านจากแม่น้ำ  ทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนกำลังท่องเที่ยวกลางภาพวาดอยู่จริง ๆ

กลุ่มนาขั้นบันไดหลงจี่ห่างจากตัวเมืองกุ้ยหลิน ประมาณ 80 กิโลเมตร มีขนาดใหญ่มาก ตั้งอยู่บนภูเขาหลงจี่ อำเภอหลงเซิ่งของกว่างซี ประกอบด้วยนาขั้นบันไดของชนเผ่าจ้วงสามแห่ง

หมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดมีประมาณ 800 คน เป็นชาวเผ่าจ้วงทั้งหมด พวกเขายังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม ผู้หญิงปกติอยู่บ้านเลี้ยงลูก ตัดเย็บเสื้อผ้า ผู้ชายออกไปทำงาน ในช่วงเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวนั้น ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะออกไปทำนาในนาขั้นบันไดด้วยกัน

อาหารของพวกเขาก็เป็นอาหารของชนเผ่าจ้วง เนื่องจากในภูเขามีไม้ไผ่เต็มหมด พวกเขาก็ชอบใช้ไม้ไผ่มาปรุงอาหาร เช่นข้าวเหนียวกระบอกไม้ไผ่หรือที่คนไทยเรียกว่าข้าวหลาม นอกจากข้า