บทวิเคราะห์ : คุมเข้มการเผาฟางเพื่อลดมลพิษทางอากาศ

2023-04-17 15:10:03 | CMG
Share with:

ช่วงเดือนเมษาจน  พฤษภาคม  ตุลาคม  และพฤศจิกายนของทุกปีเป็นช่วงที่พื้นที่ชนบทของจีนเผาฟาง  การเผาฟางก่อให้เกิดควันหนักหนาซึ่งไม่เพียงแต่กลายเป็นปัญหาคอขวดในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชนบท หากยังกระทบสภาพแวดล้อมในเมืองอีกด้วย  ด้วยเหตุนี้  พื้นที่ต่าง ๆ ของจีนใช้มาตรการต่าง ๆ คุมเข้มการเผาฟาง เพื่อลดมลพิษทางอากาศ

กฎหมายว่าด้วยการป้องกันมลพิษทางอากาศของสาธารณรัฐประชาชนจีนกำหนดไว้ว่า  ห้ามเผาฟางกลางแจ้ง  นอกจากนี้  มณฑลและเมืองต่าง ๆ ของจีนยังได้วางแผนโดยเฉพาะเกี่ยวกับการคุมเข้มการเผาฟางเพื่อลดมลพิษทางอากาศ  ตัวอย่างเช่น  มณฑลเฮยหลงเจียง  ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนได้กำหนดแผนห้ามเผาฟางในทุ่งนาเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น  ส่วนเมืองเบ่าจี  มณฑลส่านซีได้กำหนดแผนการใช้ประโยชน์ฟางอย่างครอบคลุมแทนการเผาฟาง  ด้านมณฑลเจียงซีได้สร้างกลไกการปราบการเผาฟางและให้เงินรางวัลต่ออำเภอที่ใช้ฟางให้เป็นประโยชน์ตั้งแต่เมื่อปี 2018  โดยใช้วิธีการตรวจด้วยการใช้ดาวเทียมและโดรนควบคุมทางไกล  เพื่อกำกับดูแลการเผาฟางของอำเภอต่าง ๆ จำนวน 100 อำเภอของมณฑลเจียงซี

วิธีที่ดีที่สุดในการคุมเข้มการเผาฟางคือ  การใช้ประโยชน์ฟางอย่างครอบคลุม  จีนเป็นประเทศการเกษตร  ทุกปี  จีนจะผลิตฟางกว่า 700 ล้านตัน  รายงานเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ฟางอย่างครอบคลุมทั่วประเทศที่กระทรวงเกษตรกรรมของจีนทำขึ้นระบุว่า  เมื่อปี 2021  ทั่วทั้งประเทศจีนได้ใช้ฟางให้เป็นประโยชน์ถึง 647 ล้านตัน  อัตราการใช้ประโยชน์ฟางคิดเป็น 88.1%

เมื่อต้นปีนี้  การคลังส่วนกลางของจีนได้จัดเงินทุน 2,700 ล้านหยวนในการใช้ปฏิบัติการเพื่อใช้ประโยชน์ฟางอย่างรอบด้าน  โดยจะสร้างสรรค์อำเภอสำคัญด้านการใช้ประโยชน์ฟางอย่างครอบคลุมจำนวน 300 อำเภอในทั่วประเทศ  และฐานการใช้ประโยชน์ฟางอย่างครอบคลุมจำนวน 600 แห่งในทั่วประเทศ  เพื่อประกันให้อัตราการใช้ประโยชน์ฟางในทั่วประเทศจีนให้เป็น 86% ขึ้นไป

จีนยังรณรงค์ให้พื้นที่ต่าง ๆ ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ฟางอย่างครอบคลุม  นอกจากการบดฟางให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์และโถมคืนสู่ไร่นาซึ่งเป็นวิธีการใช้ประโยชน์ฟางดั้งเดิมแล้ว  พื้นที่ต่าง ๆ ของจีนยังแปรสภาพฟางให้เป็นอาหารสัตว์  แก๊ส เอทานอล วัสดุการก่อสร้าง หรือนำไปกำเนิดไฟฟ้า  ซึ่งได้เพิ่มคุณค่าและอัตราการใช้ประโยชน์ของฟาง

อำเภอหลงโจว  เมืองฉงจั่ว  เขตกว่างซีทางใต้ของจีนปลูกอ้อย  ข้าวเจ้า  และข้าวโพดเป็นหลัก  มีพื้นที่การเพาะปลูกกว่า 48,000 เฮกตาร์  ผลิตฟางประมาณ 490,000 ตันต่อปี  ปีหลัง ๆ มานี้  อำเภอหลงโจวพัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูปฟางให้เป็นอาหารสัตว์  และพัฒนาการเลี้ยงวัว  ซึ่งได้สร้างตำแหน่งงาน  และเพิ่มรายได้ของเกษตรกร  ถือเป็นตัวอย่าง “การใช้ฟางเลี้ยงวัว” เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองในชนบท  นอกจากนี้  อำเภอหลังโจวยังให้เงินอุดหนุนต่อการสั่งซื้อฟางและใช้ประโยชน์ฟางตามชนิดของฟาง  สำหรับฟางสดจะให้เงินอุดหนุน 45 หยวนเท่ากับ 225 บาทต่อตัน  สำหรับฟางแห้ง  จะให้เงินอุดหนุน 60 หยวนต่อตัน  เมื่อปี 2021  อัตราการใช้ประโยชน์ฟางของอำเภอหลงโจวคิดเป็น 87%

ทั้งนี้  จีนได้ก่อตั้งสหพันธ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเพื่อใช้ประโยชน์ฟางแห่งชาติเมื่อปี 2015  เพื่อพัฒนาการผลิต การศึกษาวิจัย  และความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์ฟาง  โดยจัดงานมหกรรมอุตสาหกรรมการผลิตฟางนานาชาติเป็นประจำ  เพื่อจัดแสดงผลคืบหน้าและผลงานด้านการใช้ประโยชน์ฟาง  ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ฟางที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  การปรับปรุงคุณภาพไร่นาให้ดีขึ้น  ความปลอดภัยด้านอาหารการกิน  การเกษตรระบบนิเวศ  และพลังงานใหม่  เป็นต้น  เพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพและการประยุกต์อันกว้างไกลของการใช้ประโยชน์ฟาง  http://www.zgjgxh.com/ เป็นเว็บไซต์ทางวิชาการด้านอุตสาหกรรมการผลิตฟางของจีน  เป็นศูนย์อีคอมเมิร์ซและศูนย์การค้าฟางออกไลน์ของจีน  อีกทั้งเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์ฟางอย่างครอบคลุมด้วย

ฟางเป็นทรัพยกรชีวาภาพหมุนเวียนที่มีการใช้งานหลายอย่าง  การเผาฟางไม่เพียงแต่สิ้นเปลืองทรัพยกร  หากยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ  ในอนาคต  จีนจะคุมเข้มการเผาฟางเพื่อลดมลพิษทางอากาศต่อไป  ขณะเดียวกัน  จีนยังจะพัฒนาระบบการตลาดซึ่งรวมถึงการรวบรวม  การขนส่ง  การเก็บรักษา  การแปรสภาพ  และการใช้งานฟาง  อีกทั้งจะพัฒนารูปแบบการผลิตด้านการเกษตรชีวิภาพที่ได้ผสมผสานอุตสาหกรรมการเพาะปลูก  อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์  อุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตผลการเกษตร  และอุตสาหกรรมนิเวศด้านการใช้งานฟางด้วย


(IN/ZHOU)

  • เสียงข่าวประจำวัน (05-05-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (04-05-2567)

  • เกาะกระแสจีน (04-05-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (03-05-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (03-05-2567)