3.ความรักและความสุขจากบริการเดลิเวอรี
เลี่ยว เจ๋อเหมิง เป็นพนักงานส่งเดลิเวอรีหญิงในนครฉงชิ่ง ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน งานธรรมดาแต่ต้องใช้แรงอย่างมากนี้ ไม่เพียงแค่ทำให้เธอได้ใช้ชีวิตที่ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้เธอได้รับความรักและเข้าใจความหมายของชีวิตอีกด้วย
เมื่อ 3 ปีก่อนนั้น เลี่ยว เจ๋อเหมิงได้ออกจากบ้านที่อยู่ในเขตเหอชวนของฉงชิ่ง ไปหางานทำในเขตตัวเมือง เธอพบว่า การส่งเดลิเวอรีนั้น ขอแค่ใช้ความพยายามให้มากพอ ก็จะมีรายได้ที่ดี เธอบอกว่า คำสั่งเดลิเวอรีส่วนใหญ่จะมีรายได้รายการละ 5 หยวน หรือประมาณ 25 บาท แต่บางครั้งก็ได้มากกว่า 10 หยวน หรือราว ๆ 50 บาท แต่ละวันต้องส่งอาหาร 40 กว่ารายการ จะต้องขี่รถไฟฟ้าประมาณ 60 กิโลเมตร และเดินเท้าอีกประมาณ 20,000 ก้าว
การส่งเดลิเวอรีในตัวเมืองฉงชิ่งลำบากมาก เพราะที่นี่เป็นเมืองอยู่บนภูเขา มีทางลาด และบันไดมากมาย ในพื้นที่หลายแห่งยังต้องเดินขึ้นลงด้วย การที่เลี่ยว เจ๋อเหมิงสามารถทำงานต่อไปได้ ก็เพราะได้รับน้ำใจจากผู้คนมากมาย เมื่อหกล้มในหน้าฝนก็มีคนมาช่วยจับรถไฟฟ้าไว้ บางทีส่งเดลิเวอรีเลยเวลาที่กำหนด ลูกค้าก็ให้อภัยเธอ หรือแม้แต่คำขอบคุณจากเด็ก ๆ ทั้งหมดนี้ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจมาก
เลี่ยว เจ๋อเหมิงก็ตอบแทนคนอื่นด้วยน้ำใจเธอเช่นกัน ในช่วงหน้าร้อนของปี 2022 ฉงชิ่งเกิดไฟป่าบนภูเขา พนักงานส่งเดลิเวอรีมากมายสมัครใจไปร่วมส่งสิ่งของเครื่องใช้ในการดับเพลิง ซึ่งเธอก็เข้าร่วมอย่างแข็งขัน ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ฉงชิ่งปิดเมืองเป็นเวลา 10 วัน เธอก็นอนอยู่ในร้านอาหารที่แฟนทำงานอยู่ เพื่อช่วยขนส่งสิ่งของเครื่องใช้ได้สะดวก
เมื่อกล่าวถึงแฟน ก็ถือเป็นของขวัญที่งานส่งเดลิเวอรีมอบให้กับเลี่ยว เจ๋อเหมิง ในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เธอไปบ่อย ๆ หนุ่มไช่ที่มาจากเขตเหอชวนเหมือนกัน ประทับใจในการขยันทำงานและจิตใจที่ร่าเริงของเลี่ยว เจ๋อเหมิง สองคนจึงรักกัน บางครั้ง เลี่ยว เจ๋อเหมิงจะส่งเดลิเวอรีถึงตอนดึก หนุ่มไช่ก็จะคอยเป็นเพื่อนเธออยู่ตลอดเวลา
เลี่ยว เจ๋อเหมิงกล่าวว่า งานส่งเดลิเวอรี่นั้น แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยและใช้แรงมาก แต่เมืองนี้ต้องการพวกเขา อีกทั้ง พวกเขายังสามารถทำงานไปพร้อมกับท่องเที่ยวเมืองนี้ได้ด้วย เธอจึงได้รับความสนุกสนาน และค้นพบคุณค่าของตนเองด้วย
4.ดูแลลูกเสือ 16 ปี
เลี่ยว เจ๋อเหมิงได้ค้นพบคุณค่าของตนเองจากการให้บริการคนอื่น ส่วนหลี่ ต้าเผิง ก็เป็นผู้ดูแลสัตว์มาหลายปี ในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา เขาได้ดูแลลูกเสือที่ถูกทอดทิ้งอย่างประคบประหงมเหมือนเป็นพ่อแท้ ๆ ของพวกมัน
เมื่อแม่เสือในป่าพบว่าลูกเสือแรกเกิดไม่แข็งแรงมากพอ ก็มักจะทอดทิ้งมันไป ในศูนย์เพาะเลี้ยงเหิงเต้าเหอจึ เมืองไห่หลิน ของมณฑลเฮยหลงเจียง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ก็มีลูกเสือแรกเกิดที่ถูกแม่เสือทอดทิ้งหลายตัว งานของหลี่ ต้าเผิงก็คือดูแลพวกมันให้ดี เขาทำงานที่นี่มา 16 ปีแล้ว แต่ละวันจะทำความสะอาดห้องพักของเสือ ใช้เครื่องพ่นไฟฆ่าเชื้อในจุดที่เสือสัมผัสได้ เช่นรั้วและห้องพักของเสือ และดูแลให้อากาศถ่ายเทสะดวก นอกจากนี้ ยังต้องจัดการมูลเสือ ป้อนน้ำและอาหารให้กับเสือด้วย
หลี่ ต้าเผิงได้กำหนดเมนูสำหรับเสือตัวน้อย เสือที่มีอายุมากกว่าจะป้อนเนื้อวัว เนื้อหมูก้อนใหญ่ และไก่ทั้งตัว ส่วนเสือตัวน้อยที่มีอายุน้อยกว่า ก็จะป้อนเนื้อสัตว์สับและไข่ไก่ ตอนนี้เขาเป็นผู้เลี้ยงเสืออาวุโสในมณฑลเฮยหลงเจียง เมื่อลูกสาวอายุ 8 ขวบของเขาเห็นเมนูเลี้ยงเสือแล้วก็พูดเล่นกับเขาว่า เขาเป็นพ่อของเธอหรือพ่อของเสือกันแน่ หลี่ ต้าเผิงบอกว่า เขาใช้เวลาดูแลเสือมากกว่าเวลาที่ดูแลลูกสาวด้วยซ้ำ โชคดีที่ลูกสาวเข้าใจเขา และสนับสนุนการทำงานของเขาด้วย
ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุกปี จะมีลูกเสือรุ่นใหม่เกิดมา ลูกเสือที่มีอายุครบ 1 ขวบจะถูกส่งไปรับการฝึกฝนในป่า เมื่อมีเวลา หลี่ ต้าเผิงก็จะไปดูเสือที่ตนเองเลี้ยงมาในเขตฝึกฝน พวกมันก็ยังจำเขาได้ หลี่ ต้าเผิงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ลูกเสือเหล่านี้จะเติบโตและแข็งแรงทุกตัว
