พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน

2023-05-02 16:00:06 | CRI
Share with:

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดของจีน  ได้รวบรวมปัจจัยทางวัฒนธรรมของพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศการมาเที่ยวชม

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน  ไม่เพียงจะได้เห็นความเป็นมาทางประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่สมัยโบราณกาลมาจนถึงราชวงศ์ชิงเท่านั้น  หากยังจะมีการจัดนิทรรศการแสดงความทันสมัยในยุคปัจจุบันให้ชมในรูปแบบต่างๆ ด้วย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน  ฝั่งใต้ของถนนฉางอัน  ตรงข้ามกับมหาศาลาประชาชน  เป็นพิพิธภัณฑ์อเนกประสงค์ที่มีห้องจัดแสดงถึง 48 ห้อง  มีของเก็บรักษาไว้กว่า 1.2 ล้านชิ้น  เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของจีน  และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีนตั้งขึ้นเมื่อปี 2003 โดยได้ผนวกรวมพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติจีนและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จีนเข้าไว้ด้วยกัน ขึ้นตรงกับกระทรวงการวัฒนธรรมจีน มีการก่อสร้างปรับปรุงใหม่ช่วงปี 2007 - 2010  ขยายพื้นที่เป็น  192,000 ตารางเมตร  นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีนนำเสนอประวัติศาสตร์ทั่วไปของจีนเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์กับศิลปะ มีการจัดแสดงนิทรรศการในประเด็นต่างๆ หลายอย่างเช่น  ประวัติศาสตร์  โบราณคดี  โบราณวัตถุ  เพื่อให้ผู้มาเที่ยวชมเข้าใจถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีน นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการชั่วคราวซึ่งจะเป็นการจัดแสดงของที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก เช่น นิทรรศการของสะสมจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์  และยังมีนิทรรศการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ นิทรรศการเกี่ยวกับการบริจาค   และนิทรรศการแนะนำอารยธรรมโลกด้วย

สำหรับนิทรรศการประวัติศาสตร์จีนโบราณ จะจัดแสดงอยู่ชั้นใต้ดิน  ถือเป็นนิทรรศการที่จัดแสดงถาวรของพิพิธภัณฑ์  ที่แบ่งตามยุคสมัย โดยเริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์  ราชวงศ์เซี่ย ราชวงศ์ซาง  ราชวงศ์ชุนชิว  มาจนถึงสมัยราชวงค์ชิง  โดยนำโบราณวัตถุล้ำค่าสมัยโบราณมาแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์พยานถึงสภาวะการพัฒนาทางการเมือง เศรษฐกิจ  วัฒนธรรม  การดำรงชีวิต  สังคมตลอดจนการติดต่อแลกเปลี่ยนระหว่างจีนกับต่างประเทศในยุคต่างๆ      ทำให้ผู้มาเที่ยวชมสัมผัสได้ถึงลักษณะพิเศษด้านการพัฒนาของประชาชาติจีน และกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ ที่กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ร่วมกันสร้างประเทศชาติที่มีหลายชนเผ่าอยู่ร่วมกัน  สะท้อนถึงผลสำเร็จอันรุ่งโรจน์ที่ประชาชาติจีนได้รับ

ในพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์จีนโบราณ  จะมีของโบราณล้ำค่าระดับชาติจากทั่วประเทศ  เช่น หุ่นทหารและม้าของจักรพรรดิจิ๋นซีมณฑลส่านซี    หน้ากากซานซินตุยมณฑลเสฉวน

จะทำให้คนรุ่นหลังได้เห็นสิ่งของเครื่องใช้ตัวแทนแต่ละยุคสมัยของจีน เช่น ภาชนะหุงต้มในสมัยโบราณ  เครื่องปั้นดินเผาสามสีสมัยถัง ดังนั้น การเข้าชมนิทรรศการประวัติศาสตร์จีนโบราณ   ก็เท่ากับว่ากำลังเปิดอ่านหนังสือเรียนประวัติศาสตร์  เพราะบรรดาของล้ำค่าระดับชาติที่ระบุในหนังสือสามารถปรากฏให้เห็นจริงอยู่เบื้องหน้า

เมื่อชมนิทรรศการประวัติศาสตร์จีนโบราณเสร็จแล้ว  ขอแนะนำให้นั่งลิฟต์ไปชั้น 3  เพื่อชมนิทรรศการเครื่องทองสัมฤทธิ์สมัยโบราณ  เพราะเป็นอีกหนึ่งบริเวณจัดแสดงสำคัญที่ไม่ควรพลาด    เครื่องทองสัมฤทธิ์ชิ้นเอกของจีนล้วนถูกนำมาจัดแสดงที่นี่   เครื่องทองสัมฤทธิ์โฮ่วหมู่อู้ ที่ถือเป็นภาชนะหุงต้มรูปแบบแรกของชาวจีนโบราณก็มีการนำมาจัดแสดงให้ชมในที่นี้ด้วย

ในชั้นที่ 3  นอกจากจัดแสดงเครื่องทองสัมฤทธิ์แล้ว  ยังมีนิทรรศการเครื่องยก นิทรรศการเงินตรา  และนิทรรศการเครื่องกระเบื้องเคลือบด้วย  และถ้าสนใจอยากชมประวัติศาสตร์จีนสมัยปัจจุบัน  ก็สามารถเข้าชมนิทรรศการ " ลู่ทางเจริญขึ้นใหม่"  ซึ่งได้จัดโชว์ตามลำดับเวลาจากสงครามฝิ่นจนถึงสมัยปัจจุบัน   สามารถมองเห็นภาพย่อทางสังคมจากสงครามฝิ่นจนถึงยุคปัจจุบันนิทรรศการแต่ละจุดล้วนมีเจ้าหน้าที่บรรยายคอยประจำอยู่พร้อมอาสาสมัครคอยให้ความช่วยเหลือ  ทำให้ผู้มาเที่ยวชมได้รับทราบถึงส่วนสำคัญของนิทรรศการที่จัดแสดงได้อย่างลึกซึ้งขึ้น  เข้าใจถึงตำนานความเป็นมาเบื้องหลังของสิ่งที่จัดแสดง  ซึ่งเวลาบรรยายสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ ดังนั้น หากท่องเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ก่อนเข้าชม จะช่วยให้จัดเวลาได้อย่างเหมาะสมและมีความสะดวกสบายมากขึ้น

หลังจากเข้าชมนิทรรศการและฟังบรรยายตามจุดหลักๆ เหล่านี้ครบหมดแล้ว  สามารถเดินเล่นชมส่วนอื่นๆ ของพิพิธภัณฑ์ได้ตามอัธยาศัย ซึ่งหากพาเด็กมาด้วย  ก็แนะนำให้ไปเข้าร่วมกิจกรรมในโซนเรียนรู้  ที่เด็กๆ สามารถวาดภาพและร่วมกิจกรรมต่างๆ ทำให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จีนได้อย่างสนุกสนาน

หากต้องการชมนิทรรศการทั้งหมดของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน ย่อมต้องใช้เวลาทั้งวัน ดังนั้น เมื่อรู้สึกหิวน้ำหรืออยากนั่งพักสักครู่  ที่ชั้น 1 จะมีร้านขายเครื่องดื่มชาและกาแฟ  ซึ่งมีที่นั่งให้พักผ่อนในร้านได้     และถ้ารู้สึกหิว ในร้านก็มีแซนด์วิชหรือขนมปังขาย  แต่ถ้าจะนำขนมหรือเครื่องดื่มมาเองด้วยก็ได้   แต่ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ก่อน จึงจะนำเอาเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ได้  โดยต้องไม่ลืมว่าภายในระหว่างเดินชมนิทรรศการห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มใดๆ  จะรับประทานได้เฉพาะในเขตพักผ่อนที่จัดไว้ให้เท่านั้น

หลังจากสร้างขยายเสร็จเมื่อปี 2010  ได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี  ตั้งแต่เวลา 09.00 น.  ถึง 16.00 น.  ปิดให้บริการทุกวันจันทร์   คนจีนสามารถเข้าชมโดยใช้บัตรประชาชน  คนต่างชาติสามารถเข้าชมโดยใช้พาสปอร์ต

ก่อนเข้าชม  สามารถจองผ่านเว็บไซต์ทางการหรือส่งข้อความ   เพราะคนเยอะ  อาจจะต้องใช้เวลานานในการเข้าคิวรอรับบัตรเข้าชมหากไม่ได้จองล่วงหน้า

และเนื่องจากพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ทางตะวันออกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน  จึงมีความสะดวกสบายมากในการเดินทาง   นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1  ลงที่ป้ายจัตุรัสเทียนอันเหมินตะวันออก หรือนั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่ป้ายเฉียนเหมิน   แต่ถ้าจะมาด้วยรถประจำทาง  จะมีสายที่ 1 สายที่ 52 และอีกหลายสาย นั่งมาลงที่ป้ายจัตุรัสเทียนอันหมินตะวันออก

 

 


  • เสียงข่าวประจำวัน (03-05-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (03-05-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (03-05-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (02-05-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (02-05-2567)