พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้รวบรวมปัจจัยทางวัฒนธรรมของพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศการมาเที่ยวชม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน ไม่เพียงจะได้เห็นความเป็นมาทางประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่สมัยโบราณกาลมาจนถึงราชวงศ์ชิงเท่านั้น หากยังจะมีการจัดนิทรรศการแสดงความทันสมัยในยุคปัจจุบันให้ชมในรูปแบบต่างๆ ด้วย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน ฝั่งใต้ของถนนฉางอัน ตรงข้ามกับมหาศาลาประชาชน เป็นพิพิธภัณฑ์อเนกประสงค์ที่มีห้องจัดแสดงถึง 48 ห้อง มีของเก็บรักษาไว้กว่า 1.2 ล้านชิ้น เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของจีน และเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีนตั้งขึ้นเมื่อปี 2003 โดยได้ผนวกรวมพิพิธภัณฑ์การปฏิวัติจีนและพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จีนเข้าไว้ด้วยกัน ขึ้นตรงกับกระทรวงการวัฒนธรรมจีน มีการก่อสร้างปรับปรุงใหม่ช่วงปี 2007 - 2010 ขยายพื้นที่เป็น 192,000 ตารางเมตร นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีนนำเสนอประวัติศาสตร์ทั่วไปของจีนเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตร์กับศิลปะ มีการจัดแสดงนิทรรศการในประเด็นต่างๆ หลายอย่างเช่น ประวัติศาสตร์ โบราณคดี โบราณวัตถุ เพื่อให้ผู้มาเที่ยวชมเข้าใจถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีน นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการชั่วคราวซึ่งจะเป็นการจัดแสดงของที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก เช่น นิทรรศการของสะสมจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ และยังมีนิทรรศการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ นิทรรศการเกี่ยวกับการบริจาค และนิทรรศการแนะนำอารยธรรมโลกด้วย
สำหรับนิทรรศการประวัติศาสตร์จีนโบราณ จะจัดแสดงอยู่ชั้นใต้ดิน ถือเป็นนิทรรศการที่จัดแสดงถาวรของพิพิธภัณฑ์ ที่แบ่งตามยุคสมัย โดยเริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ราชวงศ์เซี่ย ราชวงศ์ซาง ราชวงศ์ชุนชิว มาจนถึงสมัยราชวงค์ชิง โดยนำโบราณวัตถุล้ำค่าสมัยโบราณมาแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์พยานถึงสภาวะการพัฒนาทางการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต สังคมตลอดจนการติดต่อแลกเปลี่ยนระหว่างจีนกับต่างประเทศในยุคต่างๆ ทำให้ผู้มาเที่ยวชมสัมผัสได้ถึงลักษณะพิเศษด้านการพัฒนาของประชาชาติจีน และกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ ที่กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ร่วมกันสร้างประเทศชาติที่มีหลายชนเผ่าอยู่ร่วมกัน สะท้อนถึงผลสำเร็จอันรุ่งโรจน์ที่ประชาชาติจีนได้รับ
ในพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์จีนโบราณ จะมีของโบราณล้ำค่าระดับชาติจากทั่วประเทศ เช่น หุ่นทหารและม้าของจักรพรรดิจิ๋นซีมณฑลส่านซี หน้ากากซานซินตุยมณฑลเสฉวน
จะทำให้คนรุ่นหลังได้เห็นสิ่งของเครื่องใช้ตัวแทนแต่ละยุคสมัยของจีน เช่น ภาชนะหุงต้มในสมัยโบราณ เครื่องปั้นดินเผาสามสีสมัยถัง ดังนั้น การเข้าชมนิทรรศการประวัติศาสตร์จีนโบราณ ก็เท่ากับว่ากำลังเปิดอ่านหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ เพราะบรรดาของล้ำค่าระดับชาติที่ระบุในหนังสือสามารถปรากฏให้เห็นจริงอยู่เบื้องหน้า
เมื่อชมนิทรรศการประวัติศาสตร์จีนโบราณเสร็จแล้ว ขอแนะนำให้นั่งลิฟต์ไปชั้น 3 เพื่อชมนิทรรศการเครื่องทองสัมฤทธิ์สมัยโบราณ เพราะเป็นอีกหนึ่งบริเวณจัดแสดงสำคัญที่ไม่ควรพลาด เครื่องทองสัมฤทธิ์ชิ้นเอกของจีนล้วนถูกนำมาจัดแสดงที่นี่ เครื่องทองสัมฤทธิ์โฮ่วหมู่อู้ ที่ถือเป็นภาชนะหุงต้มรูปแบบแรกของชาวจีนโบราณก็มีการนำมาจัดแสดงให้ชมในที่นี้ด้วย
ในชั้นที่ 3 นอกจากจัดแสดงเครื่องทองสัมฤทธิ์แล้ว ยังมีนิทรรศการเครื่องยก นิทรรศการเงินตรา และนิทรรศการเครื่องกระเบื้องเคลือบด้วย และถ้าสนใจอยากชมประวัติศาสตร์จีนสมัยปัจจุบัน ก็สามารถเข้าชมนิทรรศการ " ลู่ทางเจริญขึ้นใหม่" ซึ่งได้จัดโชว์ตามลำดับเวลาจากสงครามฝิ่นจนถึงสมัยปัจจุบัน สามารถมองเห็นภาพย่อทางสังคมจากสงครามฝิ่นจนถึงยุคปัจจุบันนิทรรศการแต่ละจุดล้วนมีเจ้าหน้าที่บรรยายคอยประจำอยู่พร้อมอาสาสมัครคอยให้ความช่วยเหลือ ทำให้ผู้มาเที่ยวชมได้รับทราบถึงส่วนสำคัญของนิทรรศการที่จัดแสดงได้อย่างลึกซึ้งขึ้น เข้าใจถึงตำนานความเป็นมาเบื้องหลังของสิ่งที่จัดแสดง ซึ่งเวลาบรรยายสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ ดังนั้น หากท่องเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ก่อนเข้าชม จะช่วยให้จัดเวลาได้อย่างเหมาะสมและมีความสะดวกสบายมากขึ้น
หลังจากเข้าชมนิทรรศการและฟังบรรยายตามจุดหลักๆ เหล่านี้ครบหมดแล้ว สามารถเดินเล่นชมส่วนอื่นๆ ของพิพิธภัณฑ์ได้ตามอัธยาศัย ซึ่งหากพาเด็กมาด้วย ก็แนะนำให้ไปเข้าร่วมกิจกรรมในโซนเรียนรู้ ที่เด็กๆ สามารถวาดภาพและร่วมกิจกรรมต่างๆ ทำให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จีนได้อย่างสนุกสนาน
หากต้องการชมนิทรรศการทั้งหมดของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน ย่อมต้องใช้เวลาทั้งวัน ดังนั้น เมื่อรู้สึกหิวน้ำหรืออยากนั่งพักสักครู่ ที่ชั้น 1 จะมีร้านขายเครื่องดื่มชาและกาแฟ ซึ่งมีที่นั่งให้พักผ่อนในร้านได้ และถ้ารู้สึกหิว ในร้านก็มีแซนด์วิชหรือขนมปังขาย แต่ถ้าจะนำขนมหรือเครื่องดื่มมาเองด้วยก็ได้ แต่ต้องผ่านการตรวจของเจ้าหน้าที่ก่อน จึงจะนำเอาเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ได้ โดยต้องไม่ลืมว่าภายในระหว่างเดินชมนิทรรศการห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มใดๆ จะรับประทานได้เฉพาะในเขตพักผ่อนที่จัดไว้ให้เท่านั้น
หลังจากสร้างขยายเสร็จเมื่อปี 2010 ได้เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 16.00 น. ปิดให้บริการทุกวันจันทร์ คนจีนสามารถเข้าชมโดยใช้บัตรประชาชน คนต่างชาติสามารถเข้าชมโดยใช้พาสปอร์ต
ก่อนเข้าชม สามารถจองผ่านเว็บไซต์ทางการหรือส่งข้อความ เพราะคนเยอะ อาจจะต้องใช้เวลานานในการเข้าคิวรอรับบัตรเข้าชมหากไม่ได้จองล่วงหน้า
และเนื่องจากพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ทางตะวันออกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน จึงมีความสะดวกสบายมากในการเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 ลงที่ป้ายจัตุรัสเทียนอันเหมินตะวันออก หรือนั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่ป้ายเฉียนเหมิน แต่ถ้าจะมาด้วยรถประจำทาง จะมีสายที่ 1 สายที่ 52 และอีกหลายสาย นั่งมาลงที่ป้ายจัตุรัสเทียนอันหมินตะวันออก