จีนเสนอให้โลกมองการพัฒนาของจีนอย่างถูกต้อง

2023-05-08 16:54:40 | CMG
Share with:

โดย รศ.วิภา อุตมฉันท์

ครั้งที่แล้วเราได้พูดถึงความหมายโดยทั่วไปของคำว่า “การจัดระเบียบโลกใหม่” ว่าหมายถึงช่วงเวลาที่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองระหว่างประเทศ  และการถ่วงดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจเสียสมดุลจนน่ากลัวอันตราย  ช่วงเวลาเช่นนั้นมหาอำนาจขั้วใดขั้วหนึ่งจะร้องหา “การจัดระเบียบโลกกันใหม่” เพื่อให้โลกมีเสถียรภาพมากขั้น

วันนี้เราจะมาดูความเห็นทางฝ่ายจีนบ้างว่า  ถ้าเกิดจีนได้ขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจกับเขาบ้าง  เขาอยากเรียกร้องอะไรกับชาวโลก ? เพราะเหตุใด ?

สรุปอย่างสั้นที่สุด  จีนไม่คิดว่าโลกจำเป็นต้องถูกใครมาจัดระเบียบ ระเบียบที่ว่านั้นเป็นของใคร    จัดทำไม  เพื่อผลประโยชน์อะไร ??? 

เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมานี้เอง  กระทรวงการต่างประเทศของจีนจัดการประชุมเชิงเสวนาเรียกว่า "การประชุมหลันทิง” (Lanting) หลันทิงแปลว่าห้องสีฟ้าซึ่งเป็นชื่อตึก ๆ หนึ่งทางทิศใต้ของกระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่ง  กระทรวงการต่างประเทศจัดประชุมหลันทิงเป็นประจำทุกปีติดต่อกันตั้งแต่ปี 2010  เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว  วัตถุประสงค์ก็เพื่อสนอแนวคิดด้านการต่างประเทศของตน  และรับฟังความเห็นของแขกรับเชิญชาวต่างชาติ  แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่ย้ายมาประชุมที่เซี่ยงไฮ้   เพื่อความเหมาะสมและสะดวกในการเข้าร่วมในฐานะที่เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของจีนและของโลก 

ผู้เข้าร่วมประชุมมีทั้งภาครัฐและภาคเอกชน  เช่น ผู้ว่าการธนาคาร BRIC อดีตนายกรัฐมนตรีบราซิล อียิปต์  ฯลฯ หัวข้อในการสัมมนาครั้งนี้ให้ชื่อว่า “โลกกับความทันสมัยแบบจีน” ชื่อเรื่องชี้ให้เห็นชัด ๆ ว่า  เวลานี้ทุกคนต่างก็รู้ว่าจีนกำลังมุ่งมั่นสร้างประเทศให้ทันสมัย  แล้วสุดท้ายหากจีนทำสำเร็จผงาดขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกแล้ว  จีนจะมีท่าทีต่อ “โลก” อย่างไร  จะปฏิบัติต่อนานาประเทศในโลกที่ยังอ่อนด้อยกว่าอย่างไร  จะเอารัดเอาเปรียบบีบบังคับให้คนอื่นต้องทำตามความต้องการของตน  ต้องเป็นบริวารลูกกระจ๊อกเดินตามคำสั่งของจีนหรือไม่  ? 

การประชุมครั้งนี้สีจิ้นผิงไม่ได้ไปร่วมประชุมด้วยตนเอง  แต่ได้ส่งสารแสดงความยินดีและนำเสนอแง่คิดความเห็นส่วนตัวต่อที่ประชุม   ใจความสำคัญของเขาก็คือคำตอบของหัวข้อการสัมมนา   เป็นคำตอบสำหรับความขัดข้องหมองใจของผู้คนที่มีต่อการเจริญเติบใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วของจีนดังที่กล่าวมาข้างต้น  ข้อความตอนหนึ่งของเขากล่าวว่า....  จีนพยายามอย่างไม่ลดละเพื่อที่จะสร้างความทันสมัยให้กับประเทศและประชาชนจีน   ซึ่งสิ่งนี้ก็เชื่อว่าเป็นความใฝ่ฝันของคนทั่วโลกด้วยเช่นกัน  การที่ประเทศหนึ่ง ๆ จะก้าวไปถึงขั้นนั้นได้   นอกจากต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทั่ว ๆ ไปที่ทุกประเทศต่างต้องทำเพื่อให้ได้รับผลสำเร็จแล้ว  ที่สำคัญกว่าก็คือ   แต่ละประเทศต้องเลือกหนทางเดินและวิธีปฏิบัติที่สอดรับกับสภาพที่เป็นจริงของตนเองด้วย  เพราะแต่ละประเทศต่างก็มีลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนกัน  จะลอกเลียนแบบกันไม่ได้   สำหรับพรรคคอมมิวนิสต์จีน  เราใช้วิธีสามัคคีกับประชาชนทุกชนชาติทั่วประเทศ  ช่วยกันคลำหาทางออกด้วยความยากลำบากอย่างยิ่งเป็นเวลานาน  กว่าจะได้พบกับหนทางการพัฒนาที่เหมาะกับประเทศจีนจริง ๆ อย่างที่เห็นอยู่นี้   ขณะนี้จีนกำลังอยู่ในระหว่างมุ่งมั่นผลักด้นประเทศไปสู่ความเข้มแข็ง  พลิกฟื้นความเจริญให้กลับคืนมาในทุกด้าน  จีนยินดีอย่างยิ่งหากประสบการณ์ที่ผ่านมาของจีนจะมีส่วนช่วยให้ประเทศต่าง ๆ มองเห็น “โอกาส” ที่จะนำไปใช้กับประเทศของตนเอง   มนุษยชาติจะได้มีช่องทางในการสร้างความทันสมัยที่แตกต่างกันหลากหลายมากยิ่งขึ้น  มนุษยชาติจะได้ก้าวเดินหน้าไปสู่ชะตากรรมอันงดงามร่วมกันอย่างมั่นคงขึ้น....

สรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับการสร้างความทันสมัยของจีนอีกครั้งก็คือ...  ความทันสมัยแบบจีนเป็นความทันสมัยแบบใหม่ ประเทศต่าง ๆ สามารถนำไปศึกษาเป็นแบบอย่างและนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับสภาพของตนเอง  ไม่ต้องให้ใครมาบังคับกะเกณฑ์  ไม่ต้องขึ้นต่อ “ขั้วอำนาจ” ที่มาชี้นิ้วบังคับประเทศโน้นประเทศนี้จนเกิดความผันผวนปรวนแปรไปตามที่มหาอำนาจต้องการ

  • เสียงข่าวประจำวัน (19-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (19-04-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (19-04-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (18-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (18-04-2567)