วันที่ 7 พฤษภาคม ซีเรียได้กลับคืนสู่ครอบครัวใหญ่สันนิบาตชาติอาหรับหลังถูกโดดเดี่ยวมาเป็นเวลา 12 ปี มติจากที่ประชุมพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศสันนิบาตชาติอาหรับในวันเดียวกันระบุว่า “ฟื้นฟูคืนสถานะของคณะผู้แทนรัฐบาลซีเรียในการเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีสันนิบาตชาติอาหรับ รวมถึงกลุ่มและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของสันนิบาตชาติอาหรับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
ภายนอกมองว่านี่เป็นเหตุการณ์เชิงสัญลักษณ์อีกเรื่องหนึ่งในกระบวนการสร้างความปรองดองของประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ต่อจากที่ซาอุดิอาระเบียและอิหร่านคืนดีกันที่กรุงปักกิ่ง
การที่ซีเรียได้กลับคืนสู่ครอบครัวใหญ่สันนิบาตชาติอาหรับ ไม่ได้เหนือการคาดหมายเมื่อเทียบจากวิกฤตซีเรีย นับแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ทหารรัฐบาลซีเรียได้กลับมาควบคุมดินแดนกว่า 70% อีกครั้ง ขณะที่ฝ่ายค้านนับวันยิ่งอ่อนกำลังลง
ปีหลังๆ มานี้ แนวโน้มดังกล่าวทำให้ชาติอาหรับเริ่มติดต่อกับรัฐบาลซีเรีย และมีแนวโน้มมากขึ้นการที่ซีเรียกลับคืนสู่สันนิบาตชาติอาหรับจะเป็นเรื่องเวลาเท่านั้น
ระยะหลังๆ นี้ กลุ่มประเทศในตะวันออกกลางไม่ยอมปฏิบัติตาม “บทที่สหรัฐเขียน” ทำให้กรุงวอชิงตันเริ่มต้นปฏิบัติการต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถขัดขวางแนวโน้มการสร้างความปรองดองในภูมิภาคตะวันออกกลาง จากเรื่องซาอุดิอาระเบียกับอิหร่านคืนดีกัน ถึงเรื่องซีเรียกลับคืนสู่สันนิบาตชาติอาหรับ กลุ่มชาติตะวันออกกลางส่งสัญญาณชัดเจนว่า---ต้องการสันติภาพ ต้องการพัฒนา และต้องการเดินบนหนทางของตัวเอง
จีนมองว่า “กระแสความปรองดอง” ในภูมิภาคตะวันออกกลางทุกวันนี้เป็นการเตือนสหรัฐว่า ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
(BO/LING/CAI)