เมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ภาคตะวันออกของจีน นอกจากเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ของประเทศ พร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย กำลังการขนส่งทางเรือที่เต็มอัตรา พัฒนาเป็นแหล่งกระจายและศูนย์โลจิสติกส์ของการค้าการเดินเรือไกลของมณฑลเจ้อเจียงและภาคตะวันออกของจีนแล้ว ยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีน เมื่อกว่า 7,000 ปีก่อน บรรพบุรุษหนิงโปอาศัยกันที่นี่ สร้าง “วัฒนธรรมเหอหมู่ตู้” (Hemudu Culture) ที่รุ่งโรจน์
“วัฒนธรรมเหอหมู่ตู้” ขุดพบเมื่อปี 1973 เป็นซากโบราณสถานยุคเครื่องหินใหม่ของจีน โดยมีการค้นพบเศษเมล็ดข้าวและ “ซื่อ” เครื่องมือการเกษตรที่คล้ายกับจอบเสียมที่ทำจากกระดูกนับ 100 ชิ้น เป็นหลักฐานชี้ชัดว่าการเพาะปลูกข้าวนาน้ำของจีนเกิดขึ้นในท้องถิ่นและมีประวัติมา 7,000 ปี หากไม่ใช่นำเข้าจากอินเดียหรือญี่ปุ่น
โบราณสถานดังกล่าวตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเหอหมู่ตู้ ตำบลเหอหมู่ตู้ ห่างจากใจกลางเมืองหนิงโปราว 20 กิโลเมตร เป็นผลงานวิจัยทางโบราณสถานสมัยเครื่องมือหินใหม่ของจีนในลุ่มแม่น้ำแยงซีตอนปลาย เป็นสิ่งของมีค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจีน
เมืองที่มีประวัติมาหลายพันปีนี้เคยเปลี่ยนชื่อมาหลายยุคหลายสมัย คือ มีชื่อเรียกต่างกันในสมัยราชวงศ์ฉิน ราชวงศ์ถัง และราชวงศ์อื่นๆ ต่อมาในปี ค.ศ. 1381 ราชวงศ์หมิงเปลี่ยนชื่อของเมืองนี้เป็น “หนิงโป” หมายความว่า “ทะเลสงบ คลื่นก็จะสงบนิ่ง”
โบราณสถานที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเมืองหนิงโป คือ “เทียนอีเก๋อ” (Tianyi Pavilion) โบราณสถานระดับชาติของจีน เป็นหอสมุดส่วนบุคคลที่สร้างขึ้นในปลายสมัยราชวงศ์หมิง มีการเก็บหนังสือโบราณหลายหมื่นเล่ม ส่วนใหญ่เป็นหนังสือสมัยราชวงศ์หมิง ผู้ที่มาเมืองหนิงโป มักจะไปชมหอสมุดที่มีประวัติกว่า 400 ปีแห่งนี้
เวลาผ่านไปหลายร้อยปี จากสมัยราชวงศ์หมิง ราชวงศ์ชิงมาถึงปัจจุบัน เมื่อจีนเปิดเสรีและเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกมากขึ้น เมืองหนิงโปก็นับวันมีความเจริญรุ่งเรืองและความหลากหลายมากขึ้น
นอกจากโบราณสถานที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในเมืองหนิงโปแล้ว เส้นทางการเดินเรือจากเมืองหนิงโปไปสู่เมืองโจวซาน ระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางยอดนิยมสำหรับพุทธศาสนิกชนที่จะไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ภูเขาผู่โถว (Mount Putuo) เมืองโจวซาน
(Ying/LING)