เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 การประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลางจัดขึ้นอย่างราบรื่นที่เมืองซีอาน มณฑลส่านซี ประเทศจีน โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเป็นประธานการประชุมสุดยอดครั้งนี้ และมีประธานาธิบดีของคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถานร่วมการประชุมตามคำเชิญ ผ่าน“การทูตประมุข” ประมุขของทั้ง 6 ประเทศได้ร่วมกันผลักดันให้ความสัมพันธ์จีน-เอเชียกลางเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นมิตร บรรดาประมุขได้ทบทวนประวัติศาสตร์แห่งการแลกเปลี่ยนฉันมิตรระหว่างจีนกับ 5 ประเทศเอเชียกลางอย่างครอบคลุม สรุปประสบการณ์ความร่วมมือในด้านต่างๆ แลไปข้างหน้าถึงทิศทางความร่วมมือในอนาคต และเห็นพ้องต้องกันที่จะมุ่งไปที่อนาคต ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน-เอเชียกลางที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ประมุขจีนและประเทศเอเชียกลางตกลงที่จะใช้การประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นโอกาสในการกำหนดกลไกการพบปะระหว่างประมุขจีน-เอเชียกลางอย่างเป็นทางการ กำหนดจัดการประชุมทุกสองปีโดยจีนกับประเทศเอเชียกลางหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ การประชุมสุดยอดครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่คาซัคสถานในปี ค.ศ. 2025 บรรดาประมุขตกลงที่จะตั้งสำนักเลขาธิการถาวรของการประชุมจีน-เอเชียกลางขึ้นที่จีน
นายสี จิ้นผิงและประมุขของ 5 ประเทศเอเชียกลางได้ร่วมลงนามใน "ปฏิญญาซีอานว่าด้วยการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง" พร้อมรับรอง "รายงานการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลาง"
ขณะกล่าวสุนทรพจน์ นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า "เมื่อปี 2013 ข้าพเจ้าไปเยือนเอเชียกลางเป็นครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีจีน ได้เสนอความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการร่วมกันสร้าง “แถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม” ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จีนกับประเทศเอเชียกลางจับมือกันเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูความเจริญรุ่งเรืองของเส้นทางสายไหมอย่างครอบคลุม และมุ่งมั่นที่จะสร้างความร่วมมือเชิงลึกที่มุ่งสู่อนาคต นำพาความสัมพันธ์จีน-เอเชียกลางเข้าสู่ยุคใหม่"
นายสี จิ้นผิงระบุว่า ในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบศตวรรษกำลังเดินหน้าเร็วยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงของทั่วโลก การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย และการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์กำลังเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เอเชียกลางเป็นศูนย์กลางของทวีปยูเรเชีย ตั้งอยู่ที่สี่แยกที่เชื่อมโยงตะวันออกกับตะวันตกและเหนือกับใต้ โลกต้องการเอเชียกลางที่มั่นคง เจริญรุ่งเรือง มีความสามัคคีและเชื่อมโยงกัน
เมื่อเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2022 จีนและ 5 ประเทศเอเชียกลางได้จัดการประชุมสุดยอดผ่านระบบทางไกลเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ประมุขทั้ง 6 ประเทศได้ร่วมกันประกาศสร้างประชาคมจีน-เอเชียกลางที่มีอนาคตร่วมกัน
ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ นายสี จิ้นผิงเสนอว่าการสร้างประชาคมจีน-เอเชียกลางที่มีอนาคตร่วมกันนั้นต้องมี “หลักยึด 4 ประการ” อันได้แก่ ยึดมั่นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ยึดมั่นการพัฒนาร่วมกัน ยึดมั่นความมั่นคงของทุกฝ่าย และยึดมั่นมิตรภาพจากรุ่นสู่รุ่น
นายสี จิ้นผิงเสนอข้อเสนออย่างเป็นรูปธรรม 8 ประการเพื่อยกระดับความร่วมมือจีน-เอเชียกลางดังต่อไป
ประการแรก สร้างกลไกและสร้างเวทีที่กว้างยิ่งขึ้นเพื่อให้ทุกประเทศดำเนินความร่วมมือที่อำนวยประโยชน์แก่กันอย่างรอบด้าน
ประการที่สอง ขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า จีนจะออกมาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้าเพิ่มมากขึ้น ยกระดับข้อตกลงการลงทุนทวิภาคี ฯลฯ เพื่อผลักดันให้ขนาดการค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับใหม่
ประการที่สาม การเชื่อมต่อซึ่งกันที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จีนจะเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าข้ามแดนอย่างครอบคลุม สนับสนุนการสร้างช่องทางขนส่งระหว่างประเทศแคสเปียน ฯลฯ
ประการที่สี่ ขยายความร่วมมือด้านพลังงาน จีนเสนอที่จะตั้งหุ้นส่วนการพัฒนาพลังงานจีน-เอเชียกลาง สร้างความร่วมมือด้านพลังงานใหม่และการใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ ฯลฯ
ประการที่ห้า ส่งเสริมนวัตกรรมสีเขียว จีนสนับสนุนการก่อตั้งวิสาหกิจไฮเทคและนิคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศในเอเชียกลาง ฯลฯ
ประการที่หก ยกระดับความสามารถในการพัฒนา จีนจะให้การสนับสนุนทางการเงินและความช่วยเหลือแบบให้เปล่ารวม 26,000 ล้านหยวนแก่ประเทศเอเชียกลาง ฯลฯ
ประการที่เจ็ด ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางอารยธรรม จีนเชิญชวนประเทศเอเชียกลางให้เข้าร่วมในโครงการ "เส้นทางสายไหมวัฒนธรรม" และจะตั้งศูนย์การแพทย์แผนจีนเพิ่มมากขึ้นในเอเชียกลาง เร่งรัดการตั้งศูนย์วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ให้ทุนรัฐบาลแก่ประเทศเอเชียกลางต่อไป ฯลฯ
ประการที่แปด รักษาสันติภาพในภูมิภาค จีนยินดีช่วยเหลือประเทศเอเชียกลางในการเพิ่มศักยภาพด้านการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและรักษาความมั่นคงของประเทศ สนับสนุนทุกประเทศใช้ความพยายามเพื่อรักษาความมั่นคงในภูมิภาคและมีอิสระในการต่อต้านการก่อการร้าย ดำเนินความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ ขยายบทบาทกลไกการประสานงานประเทศเพื่อนบ้านของอัฟกานิสถานต่อไปเพื่อร่วมกันส่งเสริมการฟื้นฟูอัฟกานิสถานอย่างสันติ ฯลฯ
นักสังเกตการณ์โดยทั่วไปต่างก็เห็นว่า การประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นเหตุการณ์สำคัญที่มีนัยเชิงป้ายบอกระยะทางในประวัติการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศเอเชียกลาง ย่อมจะนำไปสู่ความไว้วางใจซึ่งกันและกันทางการเมืองระหว่างจีนกับประเทศเอเชียกลางที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ยกระดับความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและมีคุณภาพอีกระดับ และลงลึกกระชับความร่วมมือในเวทีระหว่างประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อัดฉีดพลังบวกให้กับการส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาในภูมิภาค และสร้างคุณูปการใหม่เพื่อผลักดันการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันแห่งมนุษยชาติ
IN/LU