“เราต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคระบาดใหญ่ครั้งต่อไป ซึ่งต้องเร่งการวิจัยผลิตยาและวัคซีนโดยทรัพยากรและกำลังการผลิตของจีนจะสามารถมีส่วนช่วยให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว”
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่กรุงปักกิ่ง ฟอรั่มการรับมือกับโรคระบาดใหญ่และความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในฟอรั่มคู่ขนานกับฟอรั่มจง กวนชุน 2023 ผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ สถาบันวิจัย และวิสาหกิจเจรจาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แสวงหาสร้างระบบการบริหารสุขภาพทั่วโลก ซึ่งมีเป้าหมายประชาคมสาธารณสุขร่วมกัน
นายบิลล์ เกตส์ ประธานมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์กล่าวว่าเราต้องเตรียมพร้อมกับโรคระบาดใหญ่ครั้งต่อไป รับมืออย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่สถานการณ์โรคระบาดจะเกิดขึ้นต้องเร่งการวิจัยและผลิตยารักษาและวัคซีน เขากล่าวว่ามุ่งที่จะให้เครื่องมือดังกล่าวมีประโยชน์ต่อทุกคนในโลก โดยทรัพยากรและกำลังผลิตของจีนสามารถมีส่วนช่วยบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จีนได้แสดงบทบาทสำคัญในการรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนทั่วโลก อย่างเช่นการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 และความปลอดภัยด้านอาหารทั่วโลก โดยวิกฤตโรคระบาดไม่มีพรมแดนต้องมุ่งเน้นความร่วมมือข้ามชาติ รับมือร่วมกัน
ด้านนายแพทย์จง หนานซาน ราชบัณฑิตแห่งสภาวิศวกรรมแห่งประเทศจีน ศูนย์วิจัยโรคระบบทางเดินหายใจทางคลินิกแห่งชาติจีนกล่าวว่าโรคระบาดไม่มีพรมแดน ทั่วโลกมีหน้าที่ร่วมกัน รับมือร่วมกันถึงจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง ทั่วโลกต้องการสร้างระบบความร่วมมือที่ใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้น กระชับความร่วมมือในด้านการแบ่งปันข้อมูล ป้องกันโรคร่วมกัน แลกเปลี่ยนทางวิชาการ สนับสนุนซึ่งกันและกัน ทำให้มีผลสำเร็จด้านการรักษาจากความร่วมมือทั่วโลกใช้กับการป้องกันและรับมือโรคระบาดใหญ่ ทั่วโลกจึงจะสร้างความผาสุกให้กับมนุษย์
นายเหลียง ว่านเหนียน รองอธิบดีประจำสถาบันสาธารณสุขและสุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยชิงหวากล่าวว่าเมื่อเผชิญกับโรคระบาดใหญ่กับการบริหารโรคเรื้อรัง ต้องปลูกฝังบุคลากรอเนกประสงค์ชั้นนำด้านสาธารณสุขและสุขภาพที่รับรู้เทคนิค บริหารได้ดี กล้าใช้นวัตกรรม เร่งปลูกฝังบุคลากรชั้นนำที่สามารถตัดสินใจในเหตุการณ์ฉุกเฉินและการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดครั้งใหญ่ โดยสถานการณ์โควิด-19 ครั้งนี้ หากมองจากทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า ระบบสาธารณสุขมีจุดอ่อนและข้อบกพร่อง บุคลากรด้านสาธารณสุขมีโครงสร้างความรู้ที่จำกัด ศักยภาพการคาดการณ์และการเตือนภัยล่วงหน้ายังต้องมีการปรับปรุง
(Bo/Cui)