ให้ประชาชนใน“เขตเก่า”มีชีวิตที่ดี- เส้นทางสี จิ้นผิง (35)

2023-06-10 08:29:10 | CMG
Share with:

ปี 1999 ซึ่งใกล้ถึงช่วงเปลี่ยนศตวรรษ เป็นวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาประเทศจีนใหม่ จะนำพา “เขตเก่า”เข้าสู่ศตวรรษที่ 21ด้วยรูปแบบใด เป็นเรื่องที่นายสี จิ้นผิงไตร่ตรองให้ความสำคัญ

ในปีนี้ นายสี จิ้นผิงได้เดินทางไปสำรวจข้อเท็จจริงที่เขตปฏิวัติเก่าทางตะวันตก ตะวันออกและทางเหนือของมณฑลฝูเจี้ยนถึงสี่ครั้ง และได้เสนอ "ความคิดแห่งศตวรรษ" ของเขาอันได้แก่ “ประชาชนในเขตเก่าเคยสร้างผลงานที่น่ายกย่องเชิดชู เป็นผู้ก่อเกิดการปฏิวัติ และได้สร้างคุณูการอย่างใหญ่หลวงแก่การสถาปนาประเทศจีนใหม่  ในวาระครบรอบ 50 ปีจีนใหม่ โฉมหน้าของเขตเก่าเป็นอย่างไรนั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ประการหนึ่ง  จะนำพาเขตเก่าเข้าสู่ศตวรรษที่ 21ด้วยรูปแบบใด? ก็ถือเป็นสัญลักษณ์อีกประการหนึ่ง นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าระบอบสังคมนิยมนั้นมีความเหนือกว่าหรือไม่? อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าในที่สุดจะสามารถบรรลุเป้าหมายตามอุดมการณ์ที่ตั้งไว้ได้หรือไม่หลังจากเราฟันฝ่าต่อสู้เพื่ออุดมการณ์แห่งการปฏิวัติ ”

วันที่ 21 มกราคมปี 2000 ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งมณฑลฝูเจี้ยน ชุดที่ 9 ครั้งที่ 3  นายสี จิ้นผิงเป็นผู้กล่าวรายงานผลการดำเนินงานและแถลงนโยบายของรัฐบาล โดยให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่นว่า ต้องแก้ไขปัญหา "การเชื่อมโยงห้าประการ”( ถนน ไฟฟ้า น้ำประปา การสื่อสารโทรคมนาคม และสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์) ของหมู่บ้านในเขตเก่าซึ่งรวมถึงหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยในขั้นพื้นฐานภายในปี 2000
ปีเดียวกันนี้ โครงการ "การเชื่อมโยงห้าประการ" ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสิบห้า “โครงการรับใช้ประชาชนที่เป็นรูปธรรม”ของคณะกรรมการพรรคฯและทางการมณฑลฝูเจี้ยน นายสี จิ้นผิงมักสอบถามเรื่องนี้เพื่อผลักดันการดำเนินการ ระหว่างปี 1999 - 2000 ทั้งมณฑลได้ลงทุนมากกว่า 4,600 ล้านหยวนในการสร้าง “การเชื่อมโยงห้าประการ” สำหรับหมู่บ้านในเขตเก่าซึ่งรวมถึงหมู่บ้านชนกลุ่มน้อยด้วย

การพัฒนาเป็นหลักการที่แน่นอน “ให้ประชาชนในเขตเก่ามีชีวิตที่ดี” ต้องอาศัยการเร่งพัฒนา  นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำหลายครั้งว่าในขณะที่เพิ่มการสนับสนุนพื้นที่เขตเก่านั้น "ประชาชนในเขตเก่าต้องสืบสานเจตนารมณ์แห่งการพึ่งพาตนเองและกล้าฝ่าฟันอุปสรรคและความยากลำบาก ต่อสู้ด้วยความมุมานะอุตสาหะ เพื่อเดินบนหนทางสู่ความมั่งคั่งโดยเร็วที่สุด "

นายสี จิ้นผิงได้ใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีการกำหนดนโยบายใหม่ๆ และผนึกกำลัง เพื่อขับเคลื่อนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในเขตเก่า ภายใต้การผลักดันร่วมกันของนายสี จิ้นผิงและคณะกรรมการพรรคฯตลอดจนทางการมณฑลฝูเจี้ยน โครงการสำคัญหลายโครงการ เช่น สถานีไฟฟ้าพลังน้ำเหมียนฮวาถัน ทางรถไฟสายก้านหลง(เมืองก้านหลง มณฑลเจียงซี-เมืองหลงเหยียน มณฑลฝูเจี้ยน) และทางรถไฟสายเหมยแข่น(เมืองเหมยโจว มณกวางตุ้ง-ตำบลแข่นซื่อ อำเภอหย่งติ้ง มณฑลฝูเจี้ยน) ได้สร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการ ซึ่งได้วางรากฐานที่มั่นคงให้กับการพัฒนาของเขตเก่า

คำบรรยายภาพ : นายสี จิ้นผิง สำรวจข้อเท็จจริงในพื้นที่ที่มีบริหารจัดการการสูญเสียน้ำและดินตามแม่น้ำและทุ่งนาของอำเภอฉางทิง เมืองหลงเหยียน มณฑลฝูเจี้ยน เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 1999

อุตสาหกรรมเป็นเป้าหมายหลักในการเร่งการพัฒนา  นายสี จิ้นผิงเน้นย้ำหลายครั้งว่าเขตเก่าต้องตั้งอยู่บนสภาพความเป็นจริงของท้องถิ่นและเลือกหนทางการพัฒนาที่เหมาะสม

"หนทางสู่ความมั่งคั่งอยู่ใต้เท้า จะพึ่งพา “การถ่ายเลือด”เพียงอย่างเดียวไม่ได้ จำเป็นต้องบ่มเพาะ “สมรรถภาพการสร้างเม็ดเลือด” และศึกษาค้นคว้าประเด็นต่างๆ เช่น เมื่ออยู่ติดกับภูเขาควรทำมาหากินโดยพึ่งภูเขาอย่างไร  เมื่ออยู่ติดกับน้ำควรทำมาหากินโดยพึ่งน้ำอย่างไร รวมถึง ควรพัฒนาอะไรในระยะสั้น และควรพัฒนาอะไรในระยะยาว" นายสี จิ้นผิงเคยกล่าวเช่นนี้ระหว่างการลงพื้นที่สำรวจข้อเท็จจริงที่อำเภอโจวหนิงในเดือนมิถุนายนปี 1999 

ต่อมาหมู่บ้านส่วนใหญ่ในเขตเก่าของมณฑลฝูเจี้ยนประสบความสำเร็จในการพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตรที่มีเอกลักษณ์ซึ่งเหมาะกับสภาพของท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น ดอกไม้และใบชาในตำบลหย่งฝู ส้มโอก่วนซีในอำเภอผิงเหอ  เกาลัดในเมืองเจี้ยนโอ  และเสาวรสในเมืองอู่ผิง เป็นต้น ต่างก็มีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชน

นอกจากการพัฒนาธุรกิจต่างๆ แล้ว ในระหว่างดำรงตำแหน่งในมณฑลฝูเจี้ยน นายสี จิ้นผิงยังให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการปฏิรูประบบและกลไก รวมถึงการสร้างรากฐานขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเขตเก่าในระยะยาว การผลักดันการปฏิรูประบบกรรมสิทธิ์ป่าไม้ส่วนรวม การขับเคลื่อนการบริหารจัดการการสูญเสียดินและน้ำในอำเภอฉางทิง ตลอดจนการสร้างสรรค์ “มณฑลนิเวศ”ของฝูเจี้ยนต่างก็อยู่ระดับแถวหน้าของทั่วประเทศ ปัจจุบัน ความเหนือกว่าทางนิเวศวิทยาได้กลายเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของมณฑลฝูเจี้ยน

ด้วยความพยายามร่วมกันของหน่วยงานทุกระดับของมณฑล ณ สิ้นปี 2019  ประชากรผู้ยากจนที่มีการขึ้นทะเบียนรวม 452,000 คนในพื้นที่ชนบท (99.5% มาจากเขตปฏิวัติเก่า)ของฝูเจี้ยนได้หลุดพ้นความยากจนทั้งหมด  หมู่บ้านยากจนที่ขึ้นทะเบียนไว้ 2,201 หมู่บ้าน (99.3% มาจากเขตปฏิวัติเก่า) ถูกลบออกจากบัญชีรายชื่อหมู่บ้านยากจนทั้งหมด  อำเภอ 23 อำเภอที่ถูกจัดให้เป็นอำเภอหลักระดับมณฑลในการบุกเบิกพัฒนาเพื่อบรรเทาความยากจน (100% มาจากเขตปฏิวัติเก่า) ถูกลบออกจากบัญชีรายชื่ออำเภอยากจนทั้งหมด

เมื่อปี 2020 รายได้สุทธิเฉลี่ยต่อหัวของครัวเรือนยากจนที่มีการขึ้นทะเบียนในมณฑลฝูเจี้ยนอยู่ที่ 15,283 หยวน อัตราการเติบโตของ GDP และรายได้ที่จับจ่ายได้เฉลี่ยต่อหัวของเกษตรกรในเขตเก่านั้นสูงกว่าระดับเฉลี่ยของมณฑล เป็นอันว่าฝูเจี้ยนประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงในการขจัดความยากจนและก้าวไปสู่สังคมพอกินพอใช้


IN/LU

  • เสียงข่าวประจำวัน (23-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (23-04-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (23-04-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (22-04-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (22-04-2567)