ไปเป็นคนงานในวัด (2)

2023-06-21 15:23:16 | CRI
Share with:

หง ซิน แนะนำว่า  งานสำคัญของเขาในห้องสมุดรวมถึงขึ้นทะเบียนหนังสือ จัดชั้นวางหนังสือ รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในห้องสมุด ช่วยค้นหาหนังสือ ล้างแก้วน้ำชาที่ผู้อ่านใช้ไปแล้ว  นอกจากนี้ ยังจำหน่ายหนังสือ  ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมที่มีความคิดสร้างสรรค์  และบริการคนที่มาทำบุญ 

หงซิน เล่าว่า เวลาว่างนอกจากจะอ่านหนังสือในห้องสมุดแล้ว  เขายังจะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในวัด  เช่น ร่วมการประชุม หรือไม่ก็ถือกล้องถ่ายรูปไปเดินเล่นในสวนผักและสวนดอกไม้ของวัด  บางครั้งก็ออกไปพบเพื่อน

ห้องสมุดในยามค่ำคืนมีความสงบเงียบที่สุดในทั้งวัน  เสมือนประภาคารที่คอยชี้นำทาง หงซิน มักจะพบว่า  พอตกค่ำ  ยังมีคนงานในวัดหรือพระสงฆ์นั่งกระจายอยู่ในมุมต่าง ๆ บางคนสวมหูฟังดูละครด้วยระบบ  wifi บางคนนั่งสมาธิเพื่อผ่อนคลายความเหนื่อยล้าตอนกลางวัน  บางคนเคาะแป้นพิมพ์ติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกวัด บางคนถือพระคัมภีร์  สวดมนต์อย่างเงียบๆ สรุปแล้วการอยู่ในวัดหรือนอกวัดไม่เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกัน

พอรู้ว่า หงซิน ลาออกจากงานไปเป็นบรรณารักษ์ในวัด เพื่อน ๆ ของเขาต่างรู้สึกแปลกใจ ตลอดจนเพื่อนบางคนเป็นห่วงว่า  หง ซินเป็นโรคซึมเศร้าหรืออกหักหรือเปล่า

แต่หงซิน บอกว่า  ไม่เลย  การมาทํางานและปฏิบัติธรรมในวัดเป็นเรื่องธรรมดา  เสมือนหิวก็กิน ง่วงก็นอน หากจะหารากเหง้าที่มา  อาจจะเกิดขึ้นจากความคิดสมัยมัธยมปลาย

ภูมิลำเนาของ หงซิน อยู่ที่เมืองเทียนสุ่ย  มณฑลกันซู่ ทางตะวันตกของจีน ที่นั่นมีถ้ำหินบนภูเขามั่ยจี ซึ่งเป็นถ้ำหินขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง 1 ใน 4 ของจีนมีประติมากรรมและภาพจิตรกรรมฝาผนังด้านพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก

ตอนเรียนชั้นมัธยมปลาย  เพื่อนร่วมชั้นของ หงซิน ส่วนใหญ่ตั้งใจเรียน  เพื่อได้คะแนนสูงในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย  แต่หงซิน หมกมุ่นอยู่กับปรัชญาและเริ่มคิดเรื่องเกี่ยวกับอนาคตและความหมายของชีวิต 

เวลานั้นบางครั้ง พ่อของ หงซิน จะพาเขาไปที่วัดแห่งหนึ่งในบ้านเกิด ไม่ใช่เพื่อจุดธูปเทียนไหว้พระอย่างเดียว  ที่สำคัญกว่านั้นคือ  เพื่อไปเยี่ยมพระอาจารย์รูปหนึ่งในวัดซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของพ่อหงซิน  พระอาจารย์รูปนี้รับผิดชอบดูแลวัด และได้รู้จักครอบครัวของหงซินมาเป็นเวลานาน

หงซินถูกดึงดูดโดยความสงบและความสบายใจของพระอาจารย์ และเริ่มเปิดอ่านพระคัมภีร์ แม้จะไม่เข้าใจเนื้อหา แต่มีความคิดผุดขึ้นมาว่า "ตอนอายุประมาณ 30 ปี  หากว่าจะมีโอกาสไปอยู่ในวัดสัก 2-3 ปีคงจะดี"

ปี 2021 หงซิน บังเอิญพบเห็นวัดที่ตั้งอยู่ในทางเหนือของมณฑลเจ้อเจียงแห่งนี้ เปิดรับอาสาสมัครเป็นบรรณารักษ์  หงซิน รู้สึกว่าตําแหน่งงานนี้เหมาะสมกับเขา  เวลานั้น  หงซินเพิ่งเลิกกับแฟนเก่า และรู้สึกว่าได้ความเป็นส่วนตัวกลับมา  ส่วนคุณพ่อคุณแม่เขาก็มีสุขภาพแข็งแรงดี  เขาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงกังวล  ดังนั้น  เขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าวัด  และเริ่มต้นประสบการณ์ใหม่

พ่อของหงซิน เคารพการตัดสินใจของเขาในที่สุดหลังจากครุ่นคิดอยู่ระยะหนึ่ง  พ่อบอกว่า "ตราบใดสิ่งที่ลูกทําดีสําหรับสังคม และเป็นสิ่งที่ลูกชอบ  พ่อก็จะไม่คัดค้าน  ลูกตัดสินใจแล้ว ขอให้ลูกก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ"

มีคนถามพระอาจารย์ว่า  มีความคิดอย่างไรต่อการที่หนุ่มสาวบางคนอย่าง หงซิน ลาออกจากงานในเมืองใหญ่  และหันไปทำงานในวัด พระอาจารย์ตอบว่า "เขาเลือกวิถีชีวิตที่เขาชอบด้วยตัวเอง  ไม่ได้หมายความว่าเขาปล่อยชีวิตไปวันวันในวัด"  

พระอาจารย์เห็นว่า  คนหนุ่มสาวต้องผ่านโลกมากขึ้น  ท่านยังให้โอวาทว่า "ต้องมีชีวิตอยู่ในอุดมคติของตน ไม่ใช่อยู่ในสายตาของผู้อื่น เป็นตัวตนของตัวเองมากที่สุด  อย่าเปรียบเทียบกับผู้อื่น ใช้ชีวิตในอุดมคติของตน  ค้นหาคุณค่าและความหมายของตน"

พระอาจารย์เคยถาม หงซิน ว่าอยากบวชไหม  แต่หงซิน ตอบว่า  เขายังคิดจะกลับคืนสู่สังคมนอกวัดอีก รอปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ดี ถึงเวลาแล้ว เขาก็จะออกจากวัด

  • เสียงข่าวประจำวัน (04-05-2567)

  • เกาะกระแสจีน (04-05-2567)

  • เสียงข่าวประจำวัน (03-05-2567)

  • สานสัมพันธ์ไทย-จีน (03-05-2567)

  • เสียงคุยกันวันละประเด็น (03-05-2567)