สำนักงานความมั่นคงสาธารณะอู่ฮั่น สาขาเจียงฮั่นในมณฑลหูเป่ยของจีน ออกรายงานระบุว่า อุปกรณ์เครือข่ายบางส่วนของศูนย์ติดตามแผ่นดินไหวของสำนักจัดการเหตุฉุกเฉินเมืองอู่ฮั่นถูกฝังด้วยไวรัสม้าโทรจัน เบื้องต้นมีการพิจารณาแล้วว่า เหตุการณ์นี้เป็นการโจมตีทางไซเบอร์ที่เริ่มโดยองค์กรแฮ็กเกอร์ในต่างประเทศและอาชญากรที่มีเบื้องหลังเป็นรัฐบาล
สำนักจัดการเหตุฉุกเฉินอู่ฮั่นกล่าวกับนักข่าวว่า ศูนย์รับมือเหตุฉุกเฉินไวรัสคอมพิวเตอร์แห่งชาติจีน และบริษัทฉีหู่ Qihoo 360 ของจีนได้ทำการวิเคราะห์ตรวจสอบแหล่งที่มาของไวรัสโทรจันพบว่า องค์กรแฮ็กเกอร์ในต่างประเทศนี้มาจากสหรัฐอเมริกา
เป็นสหรัฐฯอีกแล้ว ทำไมสหรัฐฯทำการโจมตีทางไซเบอร์ต่อศูนย์ติดตามแผ่นดินไหวของจีน?
สำหรับคำถามนี้ นักข่าวได้สอบถามกับผู้เชี่ยวชาญและได้คำอธิบายว่า การได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากศูนย์ติดตามแผ่นดินไหวสามารถสรุปโครงสร้างใต้ดินและลักษณะหินของพื้นที่ได้ ตัวอย่างเช่น สามารถคาดเดาว่ามีโพรงขนาดใหญ่อยู่ใต้ดินหรือไม่ จากนั้นก็ยังสามารถคาดเดาว่าโพรงขนาดใหญ่นั้นเป็นฐานทัพทหารและกองบัญชาการหรือไม่ ด้วยการพัฒนาด้านธรณีวิทยาในจีน ข้อมูลที่ตรวจสอบโดยศูนย์ติดตามแผ่นดินไหวจะมีหลายมิติมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหมายความว่าเมื่อข้อมูลรั่วไหล ข้อมูลต่างๆก็ยิ่งสามารถนำมาวิเคราะห์ได้มากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวว่า ตอนนี้ศูนย์ติดตามแผ่นดินไหวยังติดตามข้อมูลน้ำใต้ดินและข้อมูลดินด้วย
เนื่องจากยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กำหนดจีนเป็น "คู่แข่งทางยุทธศาสตร์" หน่วยข่าวกรองสำคัญต่างๆของสหรัฐฯ ได้ปรับภารกิจหลักให้เป็นการช่วยสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการแข่งขันเชิงกลยุทธ์กับจีน การโจมตีศูนย์ติดตามแผ่นดินไหวของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ขั้นตอนต่อไปสำหรับการโจมตีทางไซเบอร์ของสหรัฐฯต่อจีน คือการแทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวัน
การโจมตีทางไซเบอร์ดูเหมือนห่างไกลจากคนทั่วไป แต่เมื่อสหรัฐฯพัฒนาอาวุธโจมตีทางไซเบอร์ มันก็ผสานเข้ากับวงการที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับคนธรรมดา เมื่อเริ่มโจมตีทางไซเบอร์ คนธรรมดาก็จะได้รับผลกระทบด้วย
Patt/Yim/Cui