ในมณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของประเทศจีน มีเมืองโบราณแห่งหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,200 ปีแล้ว นั่นคือ เมืองไห่โจว ในสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้ ที่นี่ก็ถูกเรียกว่า “ฉินตงเหมิน” ซึ่งแปลว่า “ประตูฉินตะวันออก” ซึ่งจิ๋นซีฮ่องเต้ก็เคยเสด็จไปถึงไห่โจวสามครั้ง ปัจจุบันที่นี่ได้พัฒนาเป็นเมืองที่สำคัญในภาคตะวันออกของประเทศจีน นั่นก็คือเมืองเหลียนหยุนก่าง
ในช่วงกว่า 1,000 ปีหลังราชวงศ์ฉิน เมืองโบราณไห่โจวก็เป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมในพื้นที่ภาคเหนือด้านตะวันออกของจีน
เช่นเดียวกับหลายเมืองในจีน เหลียนหยุนก่างก็มีโบราณสถานหลายแห่งเช่นกัน เช่นในวัดไห่ชิงที่สร้างขึ้น 1000 ปีก่อน มีเจดีย์พระเจ้าอโศกมหาราชที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง พระเจดีย์ที่มี 9 ชั้น 8 ด้านองค์นี้ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วของพระเจ้าอโศกมหาราชอยู่หนึ่งองค์ เคยผ่านภัยแผ่นดินไหวระดับ 8.5 ริกเตอร์เมื่อปี ค.ศ. 1668 แต่ยังคงยืนตระหง่านและมีรูปทรงที่สมบูรณ์ ตอนนี้ได้กลายมาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองเหลียนหยุนก่างไปแล้ว
อีกสัญลักษณ์หนึ่งของเหลียนหยุนก่างคือภูเขาฮวากั่วซาน เล่ากันว่า อู๋ เฉิงเอิน นักเขียนในราชวงศ์หมิงได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากภูเขาฮวากั่วซานจนเขียนเทพนิยาย “ไซอิ๋ว” ที่เต็มไปด้วยจินตนาการและความสนุกสนานขึ้นมา
ในภูเขาฮวากั่วซานมีวัดไห่หนิงฉานซื่อหรือที่เรียกว่า “ซานหยวนกง” ซึ่งซานหยวนกงมีประวัติศาสตร์อย่างน้อย 1,500 ปี บูชาเทพแห่งสามภพ คือภพคน ภพดินและภพน้ำ
เรื่องไซอิ๋วจะขาดลิงไม่ได้ ในภูเขาฮวากั่วซานมีลิงใช้ชีวิตกันอยู่กว่า 300 ตัว แบ่งเป็นหลายกลุ่ม ในระหว่างทางขึ้นลงภูเขาสามารถพบเจอพวกมันได้ตลอดทาง
ชื่อของเหลียนหยุนก่างมาจากเกาะเหลียนเต่า ภูเขาหยุนไถซานในทะเลและท่าเรือ(ภาษาจีนเรียกว่าก่าง) นอกจากโบราณสถานแล้ว ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่น่าเที่ยวอีกด้วย
ที่นี่มีสะพานข้ามทะเลที่สวยงาม มีเขื่อนที่ยาวที่สุดในภาคเหนือของจีน มีอ่าวทะเลที่มีคลื่นสงบตลอดทั้งปี มียอดเขาสูงที่สุดของมณฑลเจียงซู มมีถนนเก่าที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม สรุปคือเป็นเมืองที่น่าเที่ยวมาก